
ตื่นมาตอนเช้าแบบมึนๆ เนื่องจากเมื่อคืนนอนตี 2 กว่าๆ มัวแต่ไปออนเซ็นเกือบจะหลับคาบ่อ กลับถึงห้องมัวแต่ทำนู่นนั่นนี่ เหลือบดูนาฬิกาอีกที เชี่ย!!!ตี2 กว่า ต้องบอกว่าที่พักที่โรงแรม Forest inn imari เตียงนุ่มมาก หลับสบายจิงจัง

เสียงนาฬิกาปลุกดังตอน 6.30 oน. สลึมสลือตื่นอาบน้ำ เตรียมออกเดินทางไปยังเป้าหมายใหม่ “นี่ถ้าไปทำงานคงยังไม่ตื่นสินะ” มาเที่ยวนอนดึกตื่นเช้า ไปทำงานนี่นอนดึก ตื่นสาย เผลอๆไม่อยากตื่นด้วยซ้ำ
อาหารเช้าของเราวันนี้เป็นเช็ตข้าวเสริมพร้อมปลาซาบะย่าง พร้อมเครื่องเคียงแบบเต็มสตรีมมาก ข้าวนุ่ม หอม ปลาสด อร่อย ตามด้วยพุดดิ้งส้ม ฉันอิ่มมาก อิ่มจนอยากกลับขึ้นไปนอนอีกรอบ
แต่…ฉันนอนไม่ได้
ประเดิมที่แรกของวันด้วยย่านอาริตะ เป็นย่านทำเครื่องถ้วย ชามเซรามิกที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ระหว่างทางเดินไปไม่ค่อยเห็นคนเท่าไหร่นักเนื่องจากเป็นเมืองที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก ถ้าถามคนไทยส่วนใหญ่ว่าไปญี่ปุ่นจะเลือกไปที่ไหน หลายคนคงตอบว่า โตเกียว โอซาก้า ฮอกไกได ฟุกุโอกะ ถ้าชอบบรรยากาศแบบสงบๆ มาที่นี่แล้วคุณจะรัก

นี่เป็นหมู่บ้าน “Okawachiyama” แม้แต่กำแพงก็ทำจากดินเผาและเครื่องใช้เซรามิกสวยงามไปตลอดทาง เมืองนี้ใช้ถ่ายละครเรื่อง “กลกิโมโน” ที่มีพี่เบิร์ด-ธงไชยและชมพู่แสดง อีกเรื่องคือ “Timeline-จดหมาย ความทรงจำ”





เราได้ไปดูการทำเครื่องปั้นดินเผาของที่นี่ที่ “HATAMAN” แบ่งเป็น 3 ห้องด้วยกัน

ห้องที่1 ห้องปั้น
ห้องที่2 วาดลวดลาย
ห้องที่ 3 ห้องโชว์



เค้าใช้สมาธิกันอย่างมากต้องเดินย่องๆไป แอบถ่ายรูป กลัวโดนด่ามากเพราะไปรบกวนเค้า ฮี่ๆ
การเดินทาง: จากสถานีซะงะ ประมาณ 1 ชั่วโมงด้วยรถไฟ หรือจากสถานีคะระซึ 40นาที ลงที่ อิมาริ
ศาลเจ้าโทซาน(Tozan Shrine) มีเสาโทริอิที่สร้างมาจากเครื่องเคลือบดินเผาเช่นกันอยู่ติดกับรางรถไฟ คนที่นี่เค้าตื่นเต้นกันมากเวลารถไฟผ่าน ทำเราตื่นเต้นเลยแอบเก็บภาพบ้าง 555 ด้านบนของศาลเจ้ามีให้เสี่ยงเซียมซีด้วยนะ



จุดนี้คือถ้าเสี่ยงเซียมซีแล้วได้ไม่ดี เอามาผูกทิ้งไว้ที่นี่ได้ เต็มเลย

แต่เราไม่ได้เสี่ยงด้านบน เค้าบอกว่าด้านล่างก็มีเสี่ยงโชค เป็นเหรียญเก่าแก่ของญี่ปุ่นเสียบด้วยใบเสี่ยงดวง ราคา 200 เยน มีหรือเราจะพลาด เรื่องแบบนี้ ชีวิตอยู่กับดวง ขอให้โชคดีทีเถ๊อะ เพี้ยง!!!!

แกะอ่านเนื้อความด้านในเป็นภาษาญี่ปุ่น 555 อ่านไม่ออก แปลก็ไม่ได้ แต่เค้าบอกว่า ดีมากเลยนะ ให้เก็บไว้ พร้อมเหรียญที่ได้ไปแล้วจะโชคดี ประมาณว่าจะประสบความสำเร็จ จะได้เจอแต่เรื่องดีๆ จำได้แค่นี้

จากนั้นไปแวะร้านเครื่องปั้นดินเผาที่ไฮเอนนิดๆ ดูหรูหรามีระดับที่เราดูแล้วว่าต้องไม่เหมาะกับตรูแน่ๆ




ต่อด้วยร้าน Gallery Arita ชมร้านเซรามิคอีกร้านร้านเกร๋ๆ น่ารักแบบ Cute cute มีรถมินิที่เพ้นท์ลวดลายหลากหลาย สีสันสดใสจอดอยู่หน้าร้าน ภายในตกแต่งด้วยเครื่องถ้วยชามเซรามิกเต็มร้าน





เซ็ทเซรามิกคิตตี้มีขายที่นี่ที่เดียว

เราแวะทานข้าวกลางวันที่นี่ สั่งเนื้อ saga steak ไป แบบว่า นุ่มละมุนลิ้นมาก เสิร์ฟ พร้อมเครื่องเคียงแบบเต็มสตรีม ฟินเฟร่อ!!! คนรักเนื้อไม่ควรพลาด ไม่พอตบท้ายด้วยพุดดิ้งงาดำ ชิมคำแรก อื้อหื้อ คนที่ญี่ปุ่นนี่ทำขนมอร่อยจริงจัง กินซะเกลี้ยงเลย อยากจิขอเบิ้ลแต่ไม่กล้า ร้านนี้มีไฮไลท์อยู่ที่ ถ้าเราสั่งชา หรือ กาแฟ แล้วเราสามารถเลือกถ้วยที่เราชอบมาใส่ได้ เริ่ดป่ะหล่ะ



ลายที่เลือกพื้นๆมาก ชอบแบบเรียบๆ เรียบซะเกือบจะขาวไม่มีลายเลย

ก่อนกลับก็แวะแชะภาพกับน้องคูเปอร์ซะหน่อย

จากนั้นก็ไปอวดฝีไม้ลายมือการวาดรูปที่สั่งสมมาตั้งแต่อนุบาล จนโตเป็นวัยรุ่นเรามีโอกาสได้โชว์ก็คราวนี้แหละ แต่วาดไป หมึกเลอะไป ได้แค่นี้จริงๆ พยายามสุดความสามารถแล้ว แต่ด้วยฝีมือนี่ยังอ่อนหัดยิ่งนัก คงต้องกลับไปเรียนวาดรูปใหม่แล้วหล่ะ ดูสภาพแล้วเหมือนเด็กอนุบาลวาดมาก ราคาค่าวาดประมาณ 1,500 เยน ได้ 1 สี แต่ถ้าอยากได้หลากสีต้องจ่ายเงินเพิ่มนาจา เราเอาแค่สีเดียวพอ วาดเสร็จเค้าบริการจัดส่งถึงบ้านเราเลยประมาณ 1 เดือนได้รับของ



แวะถ่ายรูปที่ สวนเครื่องเคลือบดินเผา(Porcelain Park and Zwinger Palace) เป็นธีมพาร์คขนาดย่อมของเมืองอาริตะ(Arita) ก่อสร้างด้วยธีมแบบพระราชวัง Zwinger ที่มีชื่อเสียงของเมือง dresden ประเทศเยอรมันนี ส่วนทางด้านหลังพระราชวังจะมีสวนสไตล์ยุโรปที่ได้วิวภูเขาที่สวยงาม แม้หญ้าจะแห้งไปนิดแต่ก็ยังสวยงามอยู่




จุดต่อไปเป็นศาลเจ้าทาเคโอะ มีต้นไม้อายุ 3,000 ปี ชื่อ ทาเคโอะ camphor สูงเด่นตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางป่าไผ่



ทาเคโอะ camphor อายุ 3,000 ปี

วัตถุประสงค์หลักของการมาที่นี่เพื่อมาแวะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ดลบันดาลให้ฝันเป็นจริง เค้ามีกระดิ่งเล็กๆห้อยกับเชือกมีให้เลือก 3สี คือ แดง = ความรัก, เหลือง=การงาน, ขาว=ความสงบ มั่นคง ราคา 200 เยน ตอนซื้อไม่รู้ความหมายหรอกหยิบมั่วๆเลือกสีแดงแรงฤทธิ์มาจ้าาาาา นี่ชั้นเลือกเรื่องความรักหรือนี่ ขอให้เจอชายในฝัน ขอให้เค้ารัก ขอให้เค้าหลง หลงแบบงัวหัวไม่ขึ้นทีเถ๊อะ เพี๊ยง!!!!!!!!!!!! (เสียงสูง) เมื่ออธิฐานเสร็จแล้วก็เอาไปผูกกับเชือก ทำตามที่ป้ายบอกไว้เลย ยูกิซังเป็นคนที่นี่บอกเราว่า มีคนมาขอเรื่องเนื้อคู่ 2 สัปดาห์เจอเลยใครอยากมาขอคู่เชิญที่นี่ได้ เพี๊ยงงงงง (แรงๆ ดังๆ ให้เทพเจ้าได้ยิน)


ปิดท้ายทริปของวันที่ทาเคโอะ ซิตี้ ไลบาร์ลี่ ห้องสมุดขนาดใหญ่ของเมือง ฉันว่าฉันเคยเห็นที่ใหญ่สุดคงเป็น คิโนะคุนิยะ บ้านเรา แต่นี่กว้างมาก หนังสือแน่น อีกอย่างมีร้านสตาบัคอยู่ด้านในให้ได้จิบกาแฟเบาๆ อ่านหนังสือเพลินๆได้ มีทั้งหมด 2 ชั้น


บรรยากาศภายในห้องสมุด



เราชอบชั้น 2 ของห้องสมุด มองลงมาด้านล่างแล้วสวยดี เห็นถึงความใหญ่


ขนาดคุณลุงยังมาหาหนังสืออ่าน แสดงว่าคนที่นี่เค้ารักการอ่านจริงจัง

ใกล้ทางเข้าด้านขวาเป็นร้านขายซีดี ห้องถัดมาเป็นห้องพิพิธภัณฑ์




จากนั้นแวะเข้าที่พักที่ Kyoto-ya พักผ่อนตามอัธยาศัย มีนัดอีกทีตอน 18.30 น. ดินเน้อกัน กินอีกแล้ว รู้สึกว่ามื้อเที่ยงที่กินไปยังไม่ย่อยเลย แต่ถามว่าสู้มั้ยเรื่องกินขอให้บอกสู้ตาย!! เจ้าของโรงแรมมาแสดงโชว์ให้ดูด้วย เป็นเกียรติต่ออิชั้นอย่างนิ่ง ขอบพระคุณมากๆค่ะ


ห้องพักเป็นแบบญี่ปุ่นมาก คือเปิดมามีโต๊ะนั่งวางกลางห้อง คือไม่มีที่นอน อิชั้นเปิดตู้ทุกห้อง ที่นอนมีไหนฟร่ะ เอ๊ะหรือเค้าให้นอนในตู้เหมือนในหนังโดเรม่อน หาไม่เจอ จนต้องถามพนักงาน ได้ความว่าเดี๋ยวค่ำๆ เค้าจะมาปูให้เป็นที่นอนแบบนอนราบกับพื้น โล่งใจหน่อย ปล่อยไก่ตัวเบ้อเร้อเลยตรู


มื้อเย็นเป็นชาบู พร้อมเครื่องเคียง อิ่มพุงกางตามเคย


จากนั้นไปชมแสงสีเสียงที่ มิฟุเนะยามะ ตื่นตาตื่นใจกับไฟอลังการ มีเพลงคลอให้เคลิ้มแบบแจแปนสไตล์ ระหว่างทางเดินประดับประดาไปด้วยแสงไฟที่ทำจากกระบอกไม้ไผ่ “


“ฉันพลาด” อุตส่าห์แบกขาตั้งกล้องที่หนักตั้ง 1.5 กิโลมาจากเมืองไทย แต่ดันลืมแบกมาถ่ายการแสดงแสดงไฟที่นี่ แล้วจะแบกมาเพื่อ!!! คิดแล้วก็หงุดหงิดตัวเอง ทำไมโง่ยังงี้ ภาพที่ได้ก็เป็นเช่นนี้แล ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง


ปิดท้ายด้วยน้ำแข็งใสด้านบนที่กินแล้วต้องบอกว่าสุโค่ย เพราะเดินมาเหนื่อย คนที่นี่เค้าไอเดียดีนะ ถ้ายูอยากกินน้ำแข็งยูต้องเดินขึ้นมาด้านบนนะ จบทริปได้แบบอิ่มวิว และ อิ่มท้องมาก

ตอนนี้ทาง SAGA มีเล่นเกมชิงตั๋วเครื่องบินไป-กลับ SAGA 2 ที่นั่ง ตอบคำถามง่ายๆ คลิ๊กเล่นเกมเลย!!! ตั๋วฟรีนะ
http://www.asobo-saga.jp/th/campaign/index.html
ไปคุยกันนะ
Facebook: https://www.facebook.com/atravelerblog/
IG: A_Traveler_Blog
Twitter: A Traveler Blog
