
ถ้าจะบอกว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลย เราว่าหลายคนคงคิดแบบเดียวกันกับเรา นี่เป็นอีกครั้งที่เราได้มาเที่ยวญี่ปุ่นแต่เปลี่ยนเส้นทาง นั่นก็คือเมือง Kanazawa ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว และ ชิราคาวาโกะมาก ถ้านึกไม่ออกก็เมืองที่มี “สระว่ายน้ำ” ของ Leandro Erlich ที่หากมองจากด้านบนจะเหมือนกับว่ากำลังเดินอยู่ในสระว่ายน้ำ เป็นสถานที่ฮิตมากใน IG แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่สถานที่เดียวที่น่าสนใจ ยังมีอีกหลายสถานที่ให้น่าไปค้นหาเลยแหละ ไม่ว่าจะเป็น เดินเล่นไปตามถนนหนทางท่ามกลางบรรยากาศเก่าๆ ชมปราสาท ตะลุยตลาดปลาที่ของดีๆเด็ดๆ ทั้งซูชิ ซาซิมิ ปลาไหลราคาย่อมเยาที่จะทำให้ใจเราอยากไปเดินทุกวัน (เราไปเดินหาของกินแทบทุกวันเลยจ้า) ตระเวนชิมของหวาน และแวะช้อปปิ้งตามร้านขายของกระจุกกระจิกสไตล์ซักกะ (Zakka) น่ารักๆ มากมาย เราจะพาทุกคนไปรู้จัก Kanazawa ในแบบของเรากัน!!!
การไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นของเราในครั้งนี้จะเดินทางไปยังเมือง KANAZAWA โดยเลือกบินกับ Japan Airlines เพราะเป็นสายการบิน 5 ดาว ที่มีเครือข่ายเที่ยวบินในประเทศใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ทำให้การเดินทางของเราสะดวกรวดเร็ว มีบริการ Full-service บนเครื่องทำให้อิ่มท้องที่นั่งก็กว้างขวาง ทำให้สะดวก สบาย ตลอดการเดินทาง
ทางสายการบินมีเที่ยวบินตรงจาก กรุงเทพ-ฮาเนดะ และสามารถต่อเครื่องภายในประเทศ (transit) แวะเปลี่ยนเครื่องไม่นานก็สามารถเดินทางต่อไปยังสนามบิน Komatsu พอถึงแล้วก็นั่ง Limousine bus จากสนามบินเข้าไปในตัวเมือง Kanazawa ระยะเวลาประมาณไม่เกิน 1 ชั่วโมงราคาตั๋ว 1,130 เยน
จองตั๋วเดินทาง: https://www.th.jal.co.jp/thl/th/
ทริป 4 วัน 4 คืนของเรา บินกลางคืนถึงเช้าแล้วเที่ยวต่อ มาถึงสนามบินก็พาตัวเองไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ของสายการบิน Japan Airlines สามารถโหลดกระเป๋าได้ตั้ง 23 กิโล แล้วได้ตั้ง 2 ใบ แม่เจ้า!!!! จะขนอะไรไปและกลับดี คิดไม่ตกจริงๆ
ได้ตั๋วเดินทางแล้ว พร้อม!!!
หลังจากที่ผ่านตม.มาก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง พนักงานรอต้อนรับบนเครื่องบินหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสมาก
ที่นั่งบนเครื่องบินค่อนข้างกว้างขวางนั่งได้สบาย เบาะนั่งเอนหลังได้กำลังดี
นอกจากนี้บนเครื่องของ Japan Airlines ยังมี Wi-Fi on board อีกด้วยแต่ว่าหากมีความประสงค์จะใช้งาน จะมีค่าบริการเพิ่มเติม ส่วนเที่ยวบินภายในประเทศนั้น มีบริการ Free Wi-Fi ตลอดไฟล์ทสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมที่หน้า website JAL ที่ http://www.th.jal.co.jp
Boarding ปุ๊ป ก็ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วจ้า หลังจากที่เครื่อง Take off เราก็หิวพอดี สักพักพนักงานบนเครื่องบินก็เอาอาหารมาเสิร์ฟ ดูสิอาหารบนเครื่องน่ากินมากๆเลยไปกินก่อนนะ
มีเสิร์ฟกาแฟดอยตุงบนเครื่องด้วยนะ โดย Japan Airlines จะเสิร์ฟกาแฟดอยตุงทุกที่นั่ง สำหรับไฟล์ทกรุงเทพ-ญี่ปุ่น เริ่มต้น 1 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสนับสนุนสินค้าของโครงการพัฒนาดอยตุงฯ และร่วมเผยแพร่ปรัชญาการทำงานของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ในระดับนานาชาติ
หลังจากที่อิ่มแล้วก็ได้เวลานอนของเราสงสัยเราจะง่วงมากเกินไป ตื่นมาอีกทีเครื่องก็กำลังจะลงจอดแล้วววววววววววค่ะ…
หรือว่าใครจะดูหนังฟังเพลงบนเครื่องก็ได้เหมือนกันค่ะ
มาถึงสนามบินฮาเนดะก็ต้องต่อเครื่องไปยังสนามบิน Komatsu เพื่อไปยังเมือง Kanazawa
ขั้นตอน connecting flight transfer ง่ายมากๆเลยคือ
1. รับกระเป๋าของเราก่อนเป็นอันดับแรก ออกมาด้านนอกเลี้ยวขวา จากนั้นเดินตามป้าย Domestic Connecting Flights (ต้องดูด้วยว่าบินด้วยสายการบินอะไร ถ้าเป็นของ Japan Airlines เลี้ยวขวาโลด)
2. จะเจอป้าย Domestic Check-in ของสายการบิน Japan Airlines เดินไม่ไกลแปปเดียวถึงเลย เราก็ไป Drop กระเป๋าของเรา
3. เดินลงไปชั้นล่างหรือลงลิฟท์ไปชั้น B1 เพื่อขึ้นรถบัสไปยัง Domestic Terminals มองหาป้ายที่เขียน Free Shuttle Bus to Domestic Terminals ป้ายหมายเลข 0 นี่เลย
4. พอรถจอดที่ Domestic Terminals ให้มองหาป้ายของ JAL หรือ Japan Airlines ดู Gate ที่เราต้องไปเพื่อขึ้นเครื่องโซน Domestic Terminals คนค่อนข้างพลุกพล่านแต่ก็มองหา Gate ได้ไม่ยากนัก
5.เราได้ Gate 13 เดินมารอที่ Gate วิวดีเหมือนกันเนอะที่สนามบิน
หมายเหตุ: อาจจะเสียเวลาตรงที่ต้องไปรับกระเป๋า แล้วไป Drop อีกรอบ แต่ว่าข้อดีของสายการบิน Japan Airlines คือ ระยะทางของการเดินมา Drop กระเป๋านั้นไม่ไกลมาก เดินแปปเดียวก็ถึง ทำให้เราไม่เสียเวลามาก
เครื่องบินระหว่าง Haneda Airport ไปยัง Komatsu Airport นั้นเครื่องไม่ใหญ่มาก ที่นั่งกว้างพอสมควร เค้าบอกว่าถ้าใกล้ๆจะถึงอาจจะผ่านวิวภูเขาไฟฟูจิด้วย แต่…ไม่เห็นจ้าาาาา 5555
แวะถ่ายวิวสนามบินบ้าง
การเดินทางมาเที่ยวที่นี่ถ้าจะให้สะดวกที่สุดคือการเช่ารถขับ แต่สามารถนั่งรถไฟใต้ดิน หรือ รถเมล์เที่ยวได้ บางจุดขนส่งสาธารณะอาจจะเข้าไม่ถึง การเดินทางด้วยรถเช่าจึงสะดวกกว่า และจากที่พักของเราสามารถเดินไปไหนมาไหนสะดวก แต่ละจุดไม่ค่อยไกลมาก หากไม่ขี้เกียจสามารถเดินเที่ยวได้
ที่พักของเราในครั้งนี้คือ The Square Hotel Kanazawa อยู่กลางเมืองใกล้ตลาดปลา Omicho Fish Market เว่อร์วัง และของกินเพียบเลยจ้า ด้านล่างของโรงแรมมีร้านกาแฟ อาหารชิคๆด้วยนะ เอาบรรยากาศมาให้ดู
มาถึงที่พักแล้วเราก็เก็บของเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปจะสำรวจเมือง ดื่มดำกับสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมของ Kanazawa มาที่นี่ต้องไป ทำอะไรบ้างตามมาโลดดดด
เมือง Kanazawa เป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเป็นเมืองยอดนิยมที่สาวๆ มักพากันมาท่องเที่ยว เดินเล่นไปตามถนนหนทางท่ามกลางบรรยากาศเก่าๆ เป็นเมืองที่ยังคงหลงเหลืออาคารบ้านเมืองสไตล์ญี่ปุ่นสมัยก่อน การเดินทางก็สะดวก สบาย มีไฟล์ทบินตรงจากโตเกียวถึง Kanazawa เลยโดยใช้เวลาประมาณหนึ่ง 1 ชั่วโมง ที่นี่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวอันทรงเสน่ห์มากมาย
Kanazawa Castle สร้างโดย ไดเมียว “มาเอดะ โทชิอิเอะ” เมื่อสมัยเซ็งโกคุในปี 1583 โดยผ่านการบูรณปฏิสังขรณ์มาหลายต่อหลายครั้งเพราะไฟไหม้จนกลายเป็นปราสาทอย่างในปัจจุบัน ที่นี่เป็นสถาปัตยกรรมปราสาทจากไม้ที่สร้างขึ้นหลัง สมัยเมจิ ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แถมยังสร้างขึ้นมาโดยไม่ใช้ตะปูเลยอีกต่างหาก น่ามาดูเนอะที่อยู่:Marunouchi, Kanazawa, Ishikawa Prefecture
เวลาทำการ:1 มีนาคม – 15 ตุลาคม 7:00~18:00 น., 16 ตุลาคม – ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 8:00~17:00 น.
ค่าเข้าชม:เข้าชมฟรี
Kenroku-en แต่เดิมสร้างขึ้นมาเป็นสวนบ้านตระกูล มาเอดะที่เป็นอดีตไดเมียว ซึ่งเป็น 1 ใน 3 สวนสาธารณะขึ้นชื่อที่สุดในญี่ปุ่นที่สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติทั้ง 4 ฤดูกาลได้ถึงขนาดเรียกได้ว่าเป็นทัศนียภาพอันงดงามชั้นแนวหน้าของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ที่อยู่:1-4 Kenrokumachi, Kanazawa-shi, Ishikawa-ken
ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 310 เยน, เด็กอายุ 6 – 17 ปี 100 เยน, เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีและผู้ใหญ่อายุมากกว่า 65 ปีเข้าชมฟรี
เวลาทำการ:7:00~18:00 น.
Higashi Chaya District แหล่งท่องเที่ยวที่รายล้อมไปด้วยโรงน้ำชาบรรยากาศเก่าแก่มากมาย รวมไปถึงร้านจำหน่ายของฝากสินค้าศิลปหัตถกรรมอีกด้วย ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นเขตอนุรักษ์กลุ่มสถาปัตยกรรมดั้งเดิมอันล้ำค่าของชาติเมื่อปีเฮเซที่ 13 โดยได้รับการดูแลในฐานะที่เป็น “สมบัติทางวัฒนธรรมของเมือง” เลยทีเดียว เมื่อย่างเช้าสู่ช่วงเย็น ทั่วทั้งย่านก็จะก้องกังวานไปด้วยเสียง “ชามิเซ็น” เครื่องดนตรีสามสายและกลองไทโกะดังออกมาจากโรงน้ำชา จึงบอกเลยว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงหลงเหลือบรรยากาศในสมัยก่อนอย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ
ที่อยู่:Higashiyama, Kanazawa, Ishikawa Prefecture
แวะพักกินข้าวเที่ยงก่อน แซลม่อนรมควัน
มาญี่ปุ่นแล้วต้องไม่พลาดที่จะใส่ชุดกิโมโน เราเช่าชุดในราคา 5,400 เยน ไม่รวมค่าทำผม ซึ่งร้านที่เราเลือกเป็นร้านติดถนนใหญ่เลย ก่อนจะเข้าซอยในตรอกต่างๆ ซึ่งมีหลายราคาให้เลือก ร้านนี้ค่ะ
ช่วงเวลาของการเป็นชาวญี่ปุ่นมาถึงแล้ว อาริกาโต๊ะโกไซมัส อายิโนะโมโตะบ้านเราก็มี
วิวยามเย็นตรงแม่น้ำใกล้ๆ Higashi Chaya District สวยๆ เสมือนว่ามาเยือนยุโรป
Omicho Fish Market ครัวของชาวเมืองที่เกื้อหนุนวัฒนธรรมอาหารการกินเมืองคานาซาว่ามาตั้งแต่ปี 1721 รวมเวลากว่า 290 ปีเข้าไปแล้ว โดยเป็นตลาดจำหน่ายอาหารทะเล อาหารการกิน และสินค้าจิปาถะในชีวิตประจำวันที่คึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย เนื่องจากเปิดทำการในวันอาทิตย์ด้วย จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆสุดๆ
ที่อยู่:50 Kamiōmichō, Kanazawa-shi, Ishikawa-ken
เวลาทำการ:9:00~17:30 น.
21st Century Museum of Contemporary Art
พิพิธภัณฑ์จัดงานนิทรรศการขนาดใหญ่ถึง 3 concepts ด้วยกัน ประกอบด้วยสถาปัตยกรรม ศิลปะร่วมสมัย และศิลปหัตถกรรม ผลงานศิลปะยอดนิยมอันดับ 1 เลยก็คือ “Swimming Pool” ที่สร้างสรรค์โดย Leandro Erlich ที่ดูราวกับว่ายืนดูวิวด้านนอกอยู่ในสระว่ายน้ำและทัศนียภาพที่ดูราวกับว่ามีคนยืนอยู่ในสระว่ายน้ำเมื่อมองมาจากด้านนอก
ที่อยู่:1 Chome-2-1 Hirosaka, Kanazawa-shi, Ishikawa-ken
ค่าเข้าชม:ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 360 เยน
เวลาทำการ:โซนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม 9:00~22:00 น., โซนนิทรรศการ 10:00~18:00 น. (วันศุกร์และวันเสาร์เปิดถึงเวลา 20:00 น.)
มุมยอดฮิต ที่มองจากด้านบนเห็นด้านล่างสระว่ายน้ำ
Kanazawa Station และห้างใกล้ๆของน่าสนใจเพียบเหมาะแก่การเข้าไปสิงของนักช้อป
สถานีรถไฟประตูสู่เมืองคานาซาว่า ที่นี่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างสไตล์เมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้านศิลปะอย่าง “Omotenashi Dome” โดมแก้วที่จำลองมาจากร่มกันฝนและ “Tsuzumi Gate (ประตูทสึซึมิ)” ที่จำลองมาจากกลองที่ใช้ในการแสดงดั้งเดิมของญี่ปุ่น เป็นต้น
ที่อยู่:1-1 Kinoshinbomachi, Kanazawa-shi, Ishikawa-ken
Kanazawa Photograph Museum ที่รวบรวมภาพถ่ายและเครื่องดนตรีสมัยโบราณไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชมกัน ค่าเข้า 300 เยน
ที่อยู่: 2 Chome-11-21 Owaricho, Kanazawa, Ishikawa
ชมดอกซากุระที่มีเกือบทุกที่ในญี่ปุ่นที่นี่ก็มีเช่นกัน
ร้านปิ้งย่างแนะนำใกล้โรงแรม ร้านนี้เนื้อดีอร่อย มื้อนี้ค่าเสียหายตกคนละประมาณ 1000 บาท
พิกัด: http://bit.ly/2UMxLdt
การเดินทางจากที่พักไปยังสนามบิน Komatsu เราขึ้นรถบัสชื่อ Komatsu Airport Limousine Bus ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆโรงแรม ทางออกโรงแรมฝั่งที่เป็นถนนใหญ่นะคะ สังเกตุที่จุดรอรถจะมีป้ายบอก เราสามารถนั่งรถไปลงที่สนามบินเลยนั่งยาวๆ ประมาณ 45 นาที โดยที่จุดรอรถนั้นจะมีป้ายบอกอยู่ว่ารอบเวลาเดินรถนั้นจะมีช่วงเวลากี่โมง Flight ไหน แบบนี้ค่ะ
จบทริป Kanazawa เมืองเล็กๆที่แฝงไปด้วยความน่าหลงใหล ขอบคุณสายการบิน Japan Airlines ที่ให้เราได้มาสัมผัสประสบการณ์ดีๆแบบนี้ที่ญี่ปุ่น
“ญี่ปุ่นมากี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อเลยจริงๆ”
#JapanAirlines #FlyJAL #DiscoverYourColourWithJAL
Follow Me >>>
Facebook: https://www.facebook.com/atravelerblog/
YouTube: http://bit.ly/2m79day
IG: https://www.instagram.com/a_traveler_blog/
Twitter: https://twitter.com/A_Traveler_Blog
Website: http://atravelerblogs.com