
“Seoul in my Soul”
ครั้งนี้เราเดินทางมาเที่ยวเกาหลีในรอบ 7 ปี นานมากไม่รู้ว่าเกาหลีจะเปลี่ยนไปยังไงบ้าง แต่ที่สำคัญทริปนี้มากับพ่อ พาพ่อมาเปิดหูเปิดตาอีกครั้ง หลังจากที่เที่ยวคนเดียว เที่ยวกับเพื่อนมานาน ก็ลองเปลี่ยนมาพาคนในครอบครัวเที่ยวบ้าง พ่อดูมีความสุกตื่นเต้นกับการเดินทาง การได้เห็นรอยยิ้มของเค้าแล้มมันทำให้เรา
“มีความสุข”
เราออกเดินทางด้วยสานการบิน Eastar Jet ของเกาหลีเรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่บินกับสายการบินนี้เลยก็ว่าได้ เครื่องบินไม่ได้ลำใหญ่มาก ที่นั่งโอเค นั่งสบายพอสมควร มีน้ำหนักกระเป๋าให้ 15 กิโล แต่เสียดายไม่มีอาหารให้กินบนเครื่อง
ก่อนมาเรามีดูรีวิวตามสถานที่ต่างๆ และ List ว่าอยากจะไปที่ไหนบ้างเพราะเวลาเราค่อนข้างน้อย แต่ว่าใจนั้นอยากจะไปหมดทุกที่เลย อยากอยู่เป็นเดือนๆ เราตั้งใจว่าจะมานั่งร้านกาแฟ เดินตามย่านฮิปสเตอร์ต่างๆ พาพ่อเข้าวัดชมปราสาท แล้วก็กิน ที่สำคัญของการเดินทางคือพร๊อพที่จะต้องเอาไปด้วย ก่อนไปเราก็ไปเดินหาเสื้อผ้าที่จะมาใส่ว่าจะเอาแบบไหนไหนดีที่เข้ากับสถานที่ และ สภาพอากาศ แล้วบังเอิญไปเดินเล่นที่ AIX Armani Exchange เลยได้เจอกับ sweat shirt และ sweat pants ซึ่งเหมาะกับการใส่ขึ้นเครื่องมาก ๆ คือมันใส่สบาย เป็น airport look ที่ดูคูล เท่ห์ดี ใส่สบาย แถมไม่ยับด้วย แล้วยังสามารถเอาไปใส่ในร้านกาแฟ เดินเล่นเพื่อเพิ่มความชิคได้อีกด้วย แมทชิ่งกับรองเท้าผ้าใบ สปอร์ตๆ และแม้สภาพอากาศจะเย็นก็ยังเอาอยู่ หรือจะเปลี่ยนแนวไปกินข้าวยามเย็นโต้ลมหนาวก็เก๋ไม่เบา จิบสาเกแบบคูลๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน เลยเอามาใส่ในทริปนี้ด้วย
อีกชุดที่ชอบที่เลือกมาด้วยคือ เดรสยาวสีขาว แขนกุด ผ้าพริ้วๆ เนื้อผ้าดีเว่อร์ใส่สบายผ้าไม่หนา ไม่ยับง่ายเราพับใส่กระเป๋ามาแล้วเอามาแขวนเออมันคืนทรงได้เร็วดีนะ ใส่ไปเดินเล่นที่วัด และ Park ต่างๆ มีความหวาน ตัดกับช่วงใบไม้ร่วง ยิ่งตอนไปยืนหมุนตัวท่ามกลางต้นไม้สีส้ม มันช่างสวยงามและมีเสน่ห์ ใส่เพิ่มความดูดีให้ตัดความหวานด้วยเสื้อแจคเก็ตสีดำ แขนขนแกะสีขาว ดูเท่ขึ้น เดินเล่นตามสถานที่ยอดฮิต เพื่อหามุมถ่ายรูป หรือจะไปนั่งชิคๆที่ร้านกาแฟก็ได้ ซึ่งเดรสลายดอกตัวนี้ เพราะเหมาะจะสร้างความสดใสให้ทริปฤดูใบไม้ร่วง แถมยังเอากลับมาใส่ในฤดูร้อนแบบไทยๆ ได้ด้วย ใครที่มองหาเสื้อผ้าไปเที่ยวสำหรับถ่ายรูปเก๋ๆ และหยิบมาใส่ได้ตลอดในชีวิตประจำวันก็แนะนำให้ตรงไป AIX Armani Exchange ได้เลยเด้อออออ
เราเลือกเดินทางตอนกลางคืนเพื่อที่จะมาถึงที่กรุงโซลในตอนเช้า แล้วเที่ยวต่อได้เลย ครั้งนี้พ่อได้นั่งริมหน้าต่างของเครื่องบินด้วย พ่อเก็บรายละเอียดตั้งแต่เครื่องบิน Take off ยันเครื่องลงจอด ข้างนอกหน้าต่างมีอะไรพ่อจำได้หมดเลย
เมื่อลงเครื่องก็ผ่านเข้าตม.พ่อคอยสังเกตุว่าต้องทำยังไง ยื่นพาสปอร์ตปั้มนิ้ว มีชี้มาทางเราด้วยนะว่ามากับลูกสาว เฮ้ย!!!!!นี่พ่อฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องแล้วเหรอเนี๊ยะ แอบถามพ่อบอกเดาเอาว่าเค้าน่าจะถามแบบนี้ เลยหันมาชี้ที่เรา 55555 เริ่ด!!!!! รับกระเป๋าออกมาซื้อตั๋วขึ้นรถบัสข้างนอก ที่เกาหลีคนเยอะมากกว่าจะผ่านตม.มาได้ใช้เวลาเป็นชั่วโมง จนเกือบเที่ยง พ่อเริ่มหิวข้าว
การเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินนั้นสามารถเดินทางได้หลายแบบด้วยกัน ได้แก่ การใช้บริการรถไฟด่วนของสนามบิน(Airport Railroad Express หรือเรียกสั้นๆว่า AREX) แบบ non-stop, แบบที่จอดทุกสถานีรถไฟใต้ดินที่ผ่าน(All-Stop), รถบัสสนามบิน(limousine buses) และแท๊กซี่
- รถไฟด่วนของสนามบินหรือ AREX แบบ non-strop สถานีปลายทางคือสถานีโซล หรือ Seoul Station นั่งยาวมาเลย แล้วค่อยต่อไปยังสถานีต่างๆตามที่เราต้องการ ใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 40 นาทีเท่านั้น หรือ รถไฟสนามบินแบบธรรมดา หรือ All-Stop ที่จอดสถานีรถไฟใต้ดินทั้งหมด 11 สถานี สถานีสุดท้ายที่ Seoul Station เช่นเดียวกัน วิธีนี้จะช้ากว่าหน่อยแต่ก็จะถูกกว่ากันค่อนข้างมาก
- รถบัสสนามบินหรือลิมูซีนบัสที่จะวิ่งไปสถานที่ต่างๆในกรุงโซล เช่น Gangnam, Myeong-dong และ Yeouido รถบัสนั่งสบาย เบาะกว้าง เอนได้ที่สำคัญหลับได้ เราเลือกวิธีนี้เลย
- แท๊กซี่ จะมีราคาแพงที่สุด แต่ว่าสะดวกที่สุด เพราะแท๊กซี่จะไปส่งเราถึงหน้าโรงแรมเลย ก็จะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบเปลี่ยนรถหรือขบวนรถไฟหลายครั้ง
ซื้อตั๋วด้านหน้าทางออก จะมีเคาน์ขายตั๋วแต่เจ้าหน้าที่แนะนำว่าถ้าซื้อที่สามารถแปะได้เกือบทุกที่ ทั้งขึ้นรถ ซื้อของตามซุปเปอร์มาเก็ตไม่ต้องพกเงินสด ราคา 50000 วอน แต่จะได้ส่วนลดตั๋วรถบัสเข้าเมือง 10% เราไม่อยากเปลี่ยนขบวนรถหลายรอบ และไม่อยากยกของขึ้นลงบันไดเราเลยเลือกที่จะนั่งรถบัส ซึ่งราคาสูงกว่ารถไฟนิดหน่อย แต่สะดวกกว่า
นั่งรถชั่วโมงกว่าๆเราก็มาถึงเมียงดง ซึ่งเราพักที่ K-Guesthouse Myeongdong 3 และ K-Guesthouse Myeongdong 4 ที่เดินออกมาก็เป็นย่าานช้อปปิ้งเลย ที่พักสะอาด ห้องไม่กว้างไม่แคบมากโอเคเลยมีอาหารเช้าเป็นพวกนม คอนเฟค ขนมปัง ไข่ ให้กินในตอนเช้าหลังจากที่ลงจากรถสิ่งที่พ่อถามคือ แวะกินข้าวก่อนมั๊ย แล้วจะไปไหนก็ไปต่อ เราลืมไปเลยว่าพ่อหิวข้าว เจอร้านข้างทางเลยเข้าไปกินข้าวก่อนเลย เพราะว่าหิวแล้ว หลังจากที่พ่ออิ่มแล้วก็บอกว่า ป่ะไปไหนก็ไป อิ่มแล้ว 5555
เราเข้าที่พักเช็คอินแล้วไปเดินเล่นที่ย่านชินซาดง” ซึ่งมีถนนสุดฮิปชื่อดังที่ควรแวะมาอย่างถนนกาโรซูกิล (Garosu-gil) โดยสองข้างทางของถนนเส้นนี้จะเรียงรายไปด้วยต้นแปะก๊วยสีเหลือง ความคาดหวังของเราคือว่าใบไม้ต้องเปลี่ยนสีแล้วแน่ๆเลย จะมาหมุนตัวท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีแต่ใจเจ้ากรรม ยังเขียวอี๋อยู่เลยหมดสิทธิ์
วิธีเดินทาง : รถไฟใต้ดินสายสีส้ม ลงที่สถานีซินซา (Sinsa Station) ทางออกที่ 8
ย่านนี้เป็นอีกย่านที่มีความคูลน่าเดินเพราะว่าร้านน่ารักๆ เยอะมากเลย ของขาย แหล่งช้อปิ้ง ร้านกาแฟเพียบ บรรยากาศของย่านนี้ค่ะ
Coffee Smith ร้านกาแฟน่านั่งคนเยอะมาก ร้านน่านั่งมาก โดยเฉพาะการนั่งหน้าร้านในบรรยากาศที่เแสนจะเย็นสบาย มองดูผู้คนผ่านไปมา ขอบอกว่าโกโก้ อร่อยมาก รสชาติดีจริงๆ ร้านสวยดีเราชอบ ถ้ามาอีกก็จะมาร้านนี้
เราใส่ชุด AIX Armani Exchange ที่ใส่มาตั้งแต่อยู่สนามบินไม่เปลี่นแล้วแบบนี้แหละคูลดีสีเสื้อสีสวยดีเนอะ ตัดกับสีร้านทำให้เราดูเด่นขึ้น กันหนาวได้มีความสปอร์ตเบาๆพ่อถ่ายรูปแบบว่าถ่ายไปจนมือสั่นเพราะลูกยังไม่ได้รูปที่พอใจ หน้าลูกก็สั่นไปด้วยเลยจ้าาาาาา
ระหว่างทางเดินก็ถ่ายรูปไปด้วย
LINE Friends Cafe & Store
Remicone ร้านนี้พ่อเราหาเจอแล้วบอกร้านนี้ไงๆๆ ร้านไอศกรีมสุดสร้างสรรค์ ที่ต้องมาลองดูซักครั้ง
ใกล้ๆกันก็จะมีร้านชานมไข่มก The Alley กินกันท้องแตกไปเลยจ้าาาา อิ่มมากพ่อบอกว่ากินกาแฟเยอะจนมึนหัว 55555 มาทำอะไรอ่ะ เดินดูอะไร ไม่มีวัดไม่มีปราสาทให้ดูเหรอ T_T มีๆๆๆวันอื่นๆๆๆนะพ่อ
ย้ายโซนไปตามกินกาแฟย่านอื่นที่ดูดีและน่านั่งกันบ้าง
Cafe Bunjur
พิกัด: สถานี Seongsu ทางออก
อยู่ก่อนถึงร้าน Cafe Skön ร้านเก๋ดี มีแต่คนเกาหลีนั่ง น่านนี้ค่อนข้างมาร้านกาแฟฟลายร้าน ที่ต้องน่ารักๆ บรรยากาศดีด้วย
Cafe Skön (카페스콘)พิกัด: สถานี Hongik University ทางออก 3ร้านนี้อาจจะเดินไกลจากสถานีนิดนึงจนพ่อเราเมื่อยแต่ร้านน่ารักดีเห็นคนเกาหลีมาเยอะเราเลยลองมาบ้าง ถ่ายรูปเตรียมเสื้อสีสันสนใสมาถ่ายเข้ากั๊น เข้ากัน
Bukchon Hanok Village หมู่บ้านน่ารักๆ อีกที่ที่น่ามา มีสถาปัตยกรรมที่น่าเดิน ให้ชม พ่อชอบมาก แต่ร้านกาแฟพ่อไม่ค่อยอินเท่าไหร่เลย
นอกจากจะใส่ AIX Armani Exchange นอนบนเครื่องเป็น Airport Look แล้ว ใส่จิบกาแฟก็แล้ว ใส่มาเดินหมู่บ้านเล็กๆก็ได้ด้วยนะเทอ
แล้วก็กลับที่ย่านเมียงดงย่านช้อปปิ้งเลยจ้า คนเยอะของเยอะมาก พ่อกินตั้งแต่ร้านแรกยันร้านสุดท้าย ไม่บ่นซักคำ ลองทุกอย่างที่อยากกิน ยกเว้นมันหวานปิ้ง พ่อบอกไม่อร่อยบ้านเราก็มี แต่เราชอบมาก
และที่ขาดไม่ได้คือของกิน
การมาเกาหลีรอบนี้คือเรามาเร็วไปนิดนึงเสียดายไม่ได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีเลยไว้ค่อยมารอบใหม่ ซึ่งที่นี่เค้ามีสถานที่เที่ยวให้ถ่ายรูปเยอะเลย ความพยายามในการเดินทาง
Star field library, COEX ห้องสมุดสุดเก๋ที่ควรจะมาเก็บแต้มแลนด์มาร์คของการถ่ายรูป สวยดี
การเดินทางคือ ลงที่สถานี Korea Word Trade Center
อยู่ในตึกนี้เลยจ้าาาา
วันนี้ใส่เดรสลายดอกจาก AIX Armani Exchange มาผจญโลกภายนอกเหมาะกับลุ๊คของการอ่านหนังสือแบบคุณหนูยิ่งนัก
แล้วก็ให้พ่อไปอยู่ด้านล่างบอกมุมว่าเอามุมนี้นะ แล้วเดี๋ยวนิ่มจะเดินลงบันไดมาพ่อกดเลยนะ โอเคๆๆๆๆ รูปมัวจ้าาาาา เอาใหม่ๆๆๆ เดี๋ยวไปเดินใหม่ มัวเหมือนเดิมจ้าาาาาาา เราต้องเดินลงเป็น 10 รอบให้พ่อถ่ายในที่สุดก็ได้รูป เอาวะ หน้าแบบมองพ่อนี่แหละ ว่าถ่ายรึยัง สวยไปอีกแบบนะเราว่า ฝีมือพ่อนี่ดีจริงๆเลย
แล้วไปต่อกันที่ Lotta world tower แวะถ่ายรูปกับตึกสูที่ข้างๆเป็นสวนสนุก Lotte World พ่อเราชอบตึกนี้มากดูตื่นเต้นว่าทำไมมันสูงจัง ถ่ายรูปไม่หยุดเลย
การเดินทางคือ ลงที่สถานี Samseong แล้วเดินออกมาด้านนอกตรงยาวไปเลยจะมีสวนสาธารณะอยู่
ความโรแม้นก็มา
แล้วก็ได้เวลาของการพักผ่อนที่ร้านกาแฟอีกแล้วค่ะ Cafe Onion
พิกัด: สถานี Seongsu ทางออก 2
ร้านนี้มีความเก๋ดี เก๋แบบดิบๆ ดาร์กๆหน่อยเหมือนบ้านที่จะทุบทิ้งแล้วเอามาทำเป็นร้านกาแฟ คูลไปอีกแบบ มีเบเกอรี่และกาแฟ โกโก้หลากหลายให้เลือกเยอะเลย
ขากลับมีกลุ่มหนึ่งเดินมาถ่ายรูปหน้าร้าน แล้วพ่อถามว่าทำไมต้องถ่ายรูปหน้าร้าน มันกลางถนนนะลูก เพราะเราไปยืนแล้วพ่อบอกไปยืนกลางถนนทำไม ฮาาาาาา เลยไม่ได้ถ่ายเลย พ่อไม่ถ่ายให้เสียใจ T_Tพ่อเริ่มถามหาปราสามราชวังวัดวาอารามเราเลยพาเค้าไปพระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) ตอนแรกจะพาไป Deoksugung Palace แต่ว่าพระราชวังเคียงบกกุง แลดูเป็นแลนด์มาร์คมากกว่าเลยพามาที่นี่ ซึ่งพ่อชอบมากกกกกกก ได้น้องนักเรียนที่อาสามาเป็นไกด์พาทัวร์ พ่อถามเยอะเลย หยิบมือถือของตัวเองถ่ายรูปตลอดทาง เก็บไว้ดู
เดรสลายดอกใส่มาเดินดูปราสาทก็สวยดีเนอะ น้องไกด์เกาหลีบอกว่าชุดที่ใส่เหมือนชุดฮันบกเลย ยามและเป็นสุ่มๆคล้ายๆกัน น้องคะ พี่เลยไม่เช่าชุดฮันบกไงคะ เก๋ใช้มั๊ยหล่ะ555
Jeongdong-gil 정동길ถนนจองดองกิล เป็นถนนที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายของบรรดานักท่องเที่ยว ตั้งอยู่ในย่านใจกลางกรุงโซล ร้านน่ารักเยอะมากกกก ถนนโค้งสวยดี
ขากลับมีการตั้งวงเล่นดนตรีโชว์พ่อชอบนั่งฟังเพลินไม่เหนื่อยเลย
จากที่ตั้งใจว่าจะมาเดินชม Deoksugung Palace แต่ดันปิดเราเลยอดไป อีกอย่างคือใบไม้ยังไม่เปลี่ยนสีเลยเราเลยเปลี่ยนแผนไปเที่ยวที่อื่นแทน
Hapjeongstation อยู่ในตึกเราเห็นใน IG สวยดีเลยแวะมาถ่ายรูปบ้าง
การเดินทางคือ ลงที่สถานี Hapjeong ออกมาก็จะเจอตึกอยู่ด้านขวามือ เข้าไปเลยค่ะ หาไม่ยาก
เราเห็นพ่อมีความสุขเราก็มีความสุข ทริปเกาหลีสั้นๆของเราแบบปลื้มปลิ่มก็ผ่านไป แต่หลากหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในใจไม่เปลี่ยนแปลงเลย
“ไว้เราจะมาอีกนะ เรายังไม่เจอใบไม้เปลี่ยนสีเลย”
Follow Me>>
Facebook: https://www.facebook.com/atravelerblog/
YouTube: http://bit.ly/2m79day
IG: https://www.instagram.com/a_traveler_blog/
Twitter: https://twitter.com/A_Traveler_Blog
Website: http://atravelerblogs.com