เที่ยวจีน2บรรยากาศ จางเจียเจี้ยเมืองอวตาร เฟิ่งหวงเมืองสุดคลูไปเองได้ง่ายๆ ในงบ 10,000 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน) พร้อมแผนเดินทางอย่างละเอียด

หุบเขาอวตาร ที่เมืองจางเจียเจี้ยเป็นสถานที่ที่อยากจะไปมานานมากแล้ว มันดูลึกลับ ดูเว่อร์วังอลังยิ่ง มันมีความเป็นยูนีค แต่ติดอย่างเดียวคือ “ไม่มีคนไปด้วย” เหตุเพราะเป็นเมืองจีนผู้หญิงตัวเล็กๆน่าจะเดินทางลำบาก และอีกอย่างภาษาจีนแทบจะไม่กระดิกเลยก็ว่าได้ คงได้แต่ภาษามือ ทุกครั้งที่เห็นใครไปที่นี่ในใจก็คิดว่าเมื่อไหร่จะได้ไปๆ จนครั้งนี้โอกาสงามๆก็มาถึง ตัดสินใจชวนน้องสาวอีกครั้ง และชีก็ตอบกลับมาทันที่ว่า “ไป” ทำให้ทริปนี้เกิดขึ้นในที่สุด

ครั้งนี้จองตั๋วไป-กลับของสายการบิน AirAsia ที่บินตรงสู่จีนมากที่สุด ถ้าจะไปจีนด้วยราคาประหยัด นี่ต้องนึกถึงพี่เค้าก่อนเลย จะว่าไปเราก็เป็นแฟนตัวยงของเค้านะ เพราะต้องจองตั๋วกลับบ้านทุกเดือน พ่อกับแม่รออยู่เด็กต่างจังหวัดก็แบบนี้แหละ มีโปรมาเมื่อไหร่ต้องจอง ข้ามปีก็จอง จะให้จองแล้วบินเลยก็ไม่ไหวมันแพง

แผนการเดินทาง

Day 1 กรุงเทพฯ – ฉางซา(长沙) – อู่หลิงหยวน(武陵源)

Day 2 อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เทียนจื่อซาน (天子山) – เมืองจางเจียเจี้ย

Day 3 เขาเทียนเหมินซาน (天门山) – เมืองโบราณเฟิ่งหวง (凤凰古城)

Day 4 เมืองโบราณเฟิ่งหวง (凤凰古城) – ฉางซา

Day 5 ฉางซา – กรุงเทพฯ

เที่ยวบิน 

เส้นทาง ดอนเมือง – ฉางซา

ขาไปเส้นทาง ดอนเมือง-ฉางซา เวลา 7.30-12.10 น.

ขากลับเส้นทาง ฉางซา-ดอนเมือง เวลา 12.55-15.20 น.

เส้นทาง เชียงใหม่ – ฉางซา

ขาไปเส้นทาง เชียงใหม่-ฉางซา เวลา 17.45-22.20 น.

ขากลับเส้นทาง ฉางซา-เชียงใหม่ เวลา 23.20-01.15 น. (ตี 1)

รายละเอียดเพิ่มเติม: http://www.airasia.com

การเตรียมตัวขอวีซ่า

การเดินทางไปประเทศจีนต้องทำ VISA โดยจะทำผ่าน agent หรือ ไปยื่นเอกสารเองก็ได้ มีสถานที่ยื่น 4 ที่ ได้ อาคารธนภูมิ ชั้น 5 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพ, เชียงใหม่, สงขลา, ขอนแก่น 

เอกสารที่ต้องใช้ได้แก่

1. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว จำนวน 1 รูป

2.    Passport ตัวจริงที่ยังไม่หมดอายุ พร้อมสำเนา

3.    กรอกเอกสารแบบฟอร์มให้ครบถ้วน สามารถ download ได้จากเว็บไซท์สถานทูตจีนใช้ Version 2013 ตามลิ้งนี้ค่ะ http://www.chinaembassy.or.th/th/lsfw/bgxz/

4. ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล ถ้ามี

5. ใบจองตั๋วเครื่องบิน

6. ใบจองที่พัก

7. กรณีมีผู้ฝากยื่น ให้เตรียมสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับยื่นไปด้วย แบบฟอร์มไปเอาที่นู่นได้ค่ะ จะเซ็นต์ให้ผู้ฝากยื่นเองก็ได้ แต่ลายเซ็นต์ต้องเหมือน หรือ จะเอาใบมาให้เซ็นต์ก็แล้วแต่

8.    เตรียมเงินค่า VISA ตามรายละเอียดดังนี้

หมายเหตุ: 

1. ยื่นเอกสารในวันทำการช่วงเช้า และไปรับ VISA ในช่วงบ่าย ใช้เวลาทำประมาณ 4 วันทำการ

2. ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าแบบเร่งด่วน 2 – 3 วันทำการ : คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มจากแบบปกติ รายละ 800.- บาท

3. วันยื่นจะได้ใบเอกสารที่ระบุว่าจะให้มารับวีซ่าคืนวันไหน โดยยังไม่ต้องจ่ายเงินค่าวีซ่า จ่ายตอนมารับเล่ม Passport คืนทีเดียว

กระแสไฟฟ้าที่ใช้ 220 V., หัวปลั๊กใช้เหมือนเมืองไทย สกุลเงินที่ใช้เป็น หยวน (CNY) อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณจะอยู่ที่ 1 CNY = 5.23 บาท (ก.ค. 59)

รายละเอียดเพิ่มเติม: http://www.chinaembassy.or.th/th/lsfw/qzxk/

การเตรียมตัวเดินทาง

1. เอกสารการเดินทางเตรียมให้พร้อม ควรจะเขียนเป็นภาษาจีนแปะไปด้วย เพราะคนที่นู่นเค้าพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้

2. เครื่องคิดเลข อาจจะใช้ในโทรศัพท์มือถือก็ได้ บางครั้งเราถามเค้าว่าราคาเท่าไหร่ เค้าอาจจะฟังไม่รู้เรื่อง เราใช้วิธีให้เค้ากดเครื่องคิดเลขเลยค่ะ ช่วยได้เยอะมาก จะต่อราคาก็กดแล้วให้เค้าดูเลย

3. ที่นู่นเค้าจะ Block เกือบทุกอย่าง เราจะหายไปจากโลกโซเชียลซักพัก ถือว่าไปพักกายพักใจ แต่ถ้าทนไม่ได้แนะนำ Pocket Wifi หรือเปิด roaming ไปค่ะ

4. ตรวจดูสภาพอากาศและวางแผนการเดินทางให้ดีถ้าจะไปขึ้นเขาถ้าฝนตก ฟ้าปิด ถ่ายรูปไม่สวยจะเห็นแต่หมอก

-เวปถ่ายภาพของจีนแนะนำให้ไปเดือนเมษายน  กรกฎาคม เพราะมีฝนมาก   เมื่อฝนผ่านไปแล้วอากาศจะสดใส  เห็นทะเลหมอกลอยอิ่ง

-ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายนถือเป็นฤดูใบไม้ร่วง  เหมาะสำหรับเที่ยวทุกที่ในเมืองจีน จางเจียเจี้ยก็น่าเที่ยวเหมือนกัน

-สำหรับฤดูหนาวแนะนำให้ไปช่วงก่อนหรือหลังวันตรุษจีน  เพราะมักจะมีหิมะตกในช่วงนั้น  

5. กล้องถ่ายรูป แบตเตอรี่ เมมโมรี่การ์ด เตรียมให้พร้อม

6. ถ้าไปหน้าฝนอย่าลืมเอาร่ม หรือ เสื้อกันฝนไปด้วย ได้ใช้แน่นอน

7. โหลดแอพแปลภาษาไปด้วยจะได้โชว์ให้เค้าดูได้ เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง

การจองที่พัก
อู่หลิงหยวน(Wulingyuan) 

ที่พัก: เราจองผ่าน Hostelworld โดยเลือกWulingyuan Zhongtian International Youth Hostel ที่พักที่ลูกชายเจ้าของ Hostel ชื่อ Victor พูดภาษาอังกฤษได้ และ ช่วยเหลือตลอดการพักอาศัย เป็นกันเองมาก จองตั๋วขึ้นเขาเทียนเหมินซาน และ โบกแท็กซี่ให้ด้วย เป็นกันเองมาก ใกล้ที่เที่ยว จุดขึ้นรถบัส และ ไม่ไกลจากที่ขึ้นเขาเทียนจื่อซานมากนัก

การเดินทาง: มาที่พักเมื่อลงรถบัสแล้ว โบกแท็กซี่เลยค่ะ ประมาณ 10 หยวน ข้ามสะพานไปหน่อยก็ถึงแล้ว ห้องสภาพสะอาด นอนสบาย แต่ห้องน้ำเก่าไปนิด ราคา 138 หยวน มี wifi

พิกัด : Baofeng Road, Wulingyuan, Zhangjiajie, Hunan เบอร์โทรศัพท์ +86 744 562 8339

จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie)

ที่พัก: Zhangjiajie Yijiaqin Hotel อยู่ใกล้สถานีรถบัส และ สถานีรถไฟ และยังใกล้จุดขึ้นกระเช้าไปเขาเทียนเหมินซานด้วยเดินทางง่าย ที่พักและห้องน้ำสะอาด เจ้าของใจดี คุ้มค่าในราคา 115.2 หยวน มี wifi

การเดินทาง: เดินออกจากสถานีรถบัส เลี้ยวซ้าย เจอถนนใหญ่เลี้ยวซ้ายอีกที เดินตรงไป เจออาคารพาณิชย์เยอะๆ ด้านขวา เลี้ยวเข้าซอยตรงไปเกือบสุดซอย เลี้ยวซ้าย จะเจอโรงแรมอยู่ด้านขวามือเลย 

พิกัด : No.25 Pengjiapu Neighbourhood Zhangjiajie, HN, China เบอร์โทรศัพท์ +86 744 886 9588

เฟิ่งหวง (Fenghuang)

ที่พัก: FengHuang Old Town International Youth Hostel ที่พักอยู่ฝั่งเมืองเก่าเลย ทำเลดี อยู่ใกล้สะพานและแม่น้ำ ของกินเยอะ เดินไม่ไกล เจ้าของใจดี ช่วยเหลือเต็มที่พูดภาษาอังกฤษได้ สามารถซื้อตั๋วรถกลับฉางซาที่นี่ได้ เขามีหลายธุรกิจ ที่พักและห้องน้ำสะอาด โดยห้องน้ำเป็นแบบส้วมซึม จองที่พักแบบ 2 เตียง ได้มา 4 เตียง ในราคา 128 หยวน มี wifi

การเดินทาง: จากจุดลงรถบัส บอกว่าแท็กซี่ว่าไปไปฝั่ง old town พอลงแท็กซี่เดินตรงมาจะเจอสะพานข้ามแม่น้ำ เดินข้ามมา ให้สังเกตุด้านขวาจะมาจุดลงด้านล่าง ให้เดินลง และ สังเกตุป้ายจะเขียนว่าฝั่ง East Line มาถูกแล้วเดินตรงไปสังเกตุด้านขวาจะมีป้ายบอกว่าบล็อกที่เท่าไหร่ติดอยู่ หรือถามคนแถวนั้นได้ จะมีป้ายติดว่า no.19 ติดกันจะเป็นซอย no.20 เลี้ยวเข้าไปเลย โรงแรมอยู่ซ้ายมือ

ข้อมูลเพิ่มเติม : No.20 Wujia Lane, Near By No. 22, Dongzheng Street, Fenghuang, 416200, China

ฉางซา (Changsha)

ที่พัก: Jinjiang Inn Changsha Wuyi Square ที่พักสภาพดี เป็นเหมือนโรงแรมเลย มีอุปกรณืให้ครบ เตียงนุ่มมากกกกกก อยู่ใกล้กับ Street Food กลางคืนคนเดินเยอะมากอยู่ติดโรงแรมเลย ราคา 218 หยวน

การเดินทาง: จากจุดลงรถบัสโบกแท็กซี่เลยค่ะ บอกว่าไปโรงแรมนี้เค้ารู้จักกัน ประมาณ 25 หยวน โรงแรมอยู่ติดถนนใหญ่เลย ตั้งเด่นเป็นสง่าลงสะพานมาอยู่ด้านซ้ายมือ เค้าจะจอดให้เราลงฝั่งตรงข้าม ให้เดินลอดอุโมงค์มา ขึ้นมาก็จะถึงโรงแรมเลย มี wifi

ข้อมูลเพิ่มเติม : No.775 Wuyi Avenue Furong Dictrict, Furong, Changsha, China 410005

การหาข้อมูลการเดินทาง

1. หาจากอากู๋ของเราค่ะ (Google) และ Pantip

2. ดูเวลารถบัสได้ที่: http://www.chinabusguide.com

3. ตั๋วรถบัสระหว่างเมืองสามารถสอบถามที่พักที่เราไปพักได้ บางที่มีบริการซื้อตั๋วให้ หรือ ไปซื้อที่สถานีเลยก็ได้

เมื่อทุกอย่างพร้อม กายพร้อม ใจพร้อม ออกเดินทางไปพร้อมกันเลยเนอะ

Day 1 กรุงเทพ-ฉางซา-อู่หลิงหยวน

ออกจากเดินทางจาก สนามบินดอนเมืองเวลา 07.30 น. เครื่องออกตรงเวลาเป๊ะ ถึงสนามบิน Huanghua International Airport เวลา 11.30 น. ถึงก่อนเวลาอีกเริ่ด (ตามเวลาคือ 12.10) มีเวลาเหลือเพื่อจะได้ไปจองตั๋วรถไปอู่หลิงหยวน และ หาอะไรกินก่อนไปลุย 

-เมื่อถึงสนามบินแล้วเดินออกมาให้สังเกตุว่าจะมีจุดขายตั๋วรถบัส เพื่อไปยังสถานีขนส่ง Changsha West Bus Station ค่ารถคนละ 28.5 หยวน เมื่อซื้อตั๋วเสร็จแล้ว เดินออกมาด้านนอกอาคาร ทางขวาจะมีจุดขึ้นรถบัสอยู่ให้ไปดูป้ายว่าไป Changsha West Bus Station อยู่ช่องไหน ของเราได้ช่องที่ 1 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ก็ถึง Changsha West Bus Station สังเกตุว่าทุกคนจะลงหมด เราต้องลงค่ะ ไม่งั้นพี่คนขับเค้าจะมาไล่ลงเอง

-ถึงสถานขนส่ง Changsha West Bus Station ก็เดินเข้าไปในสถานี โดยจุดขายตั๋วจะอยู่ด้านในฝั่งขวาสุดเลย ซื้อตั๋วรถบัส ไป สถานีขนส่งอู่หลิงหยวน Wulingyuan Bus Staiton ค่ารถคนละ 103 หยวน ซึ่งจะมี 3 รอบต่อวัน คือ 7.50 น., 9.20 และ 14.30 น. พลาดอาจจต้องรอวันถัดไปได้นะคะ เมื่อได้ตั๋วเสร็จแล้วก็หาอะไรกิน ตุนเสบียงกันสุดฤทธิ์สายหิวเช่นเรานั่งรถนานไม่กลัวกลัวท้องร้อง เพราะต้องนั่งรถอีกนาน กว่าจะถึงอู่หลิงหยวน 

ปล.ถ้าใครมาไม่ทันอีกวิธีคือนั่งรถไปลงในเมืองจางเจียเจี้ยก่อนแล้วต่อรถไปอู่หลิงหยวนก็ได้ค่ะ เพราะมีหลายรอบต่อวันมากกว่าหน้าตาตั๋วรถไฟไป Wulingyuan

ได้เวลาขึ้นรถแล้วไปกัน เราเจอแก๊ง 40 ยังแจ๋วด้วยมากันแบบ สาวล้วน 4 คน กำลังจะเดินทางไปอู่หลิงหยวนพร้อมกัน คุยกันถูกคอ เพราะมาจากเมืองไทยด้วยกัน รถบัสจะเก่านิดๆ คนจีนจะเสียงดังตามสไตล์ เราว่ามันคือสไตล์ของคนที่นี่ คุยกันเสียงดังยังกับทะเลาะกัน มีเฮียคนนึงคุยโทรศัพท์ตั้งแต่รถออกจนเกือบจะถึงที่หมาย คือ อยากจิหันไปถามพี่คุยอารายกับคราย ไม่ปวดกรามหราาา ในระหว่างการเดินทางจะมีบางคนที่ลงระหว่างหว่าง การส่งสัญญาณให้รถบัสจอดของพี่แกคือ ตะโกน แต่เราฟังไม่ออกว่าแปลว่าอะไร เป็นที่รู้กัน รถบัสจอดในทันที เมื่อขับมาซักพักรถบัสแวะจอดให้เค้าห้องน้ำ และซื้อของกิน เราเห็นแก๊งจีนซื้อตีนไก่ไปกิน สีมันแดงๆ น่ากลัวไม่กล้าลอง พวกนางกินกันแบบอร่อยมาก นึกภาพมันจะเหมือนซุปเปอร์ตีนไก่บ้านเราป่าวน้า ประมาณ 19.30 น. เราก็มาถึงสถานีขนส่งอู่หลิงหยวน โชคดีมากคือพี่คนขับใจดีมากบอกทางเราไปโรงแรม และ เจอน้องวัยรุ่นคนจีน 2 คน แยกร่างกัน คนนึงพาเราไปโรงแรม อีกคนพาแก๊ง 40 ยังแจ๋วไปโรงแรม น้องโบกแท็กซี่ และ มาส่งที่โรงแรมไม่เอาเงินค่าแท็กซี่ด้วยเราจะจ่ายน้องก็ไม่ยอม ปลื้มเลย

เราจองที่พักที่ Wulingyuan Zhongtian Internation Youth Hostel หลังจากทำการเช็คอินเสร็จสรรพ ลูกค้าชายเจ้าของชื่อ Victor ก็แนะนำแผนการเดินทางเที่ยว และ อาสาซื้อตั๋วเข้าชมเขาเทียนเหมินซานให้ ในราคา 240 หยวน (ราคาจริง 258 หยวน) ตอนแรกก็ลังเลว่าจะเอาดีรึเปล่า ใจนึงก็กลัวโดนหลอก เพราะเค้าบอกว่าต้องไปรับตั๋วเองที่เคาน์เตอร์ แต่ต้องจ่ายเงินให้เค้า เราเลยขอคิดก่อน ถ้าไปต่อคิวน่าจะนาน เพราะคนต้องเยอะแน่ห้องนอนสะอาด ผ้าห่มบางใบนิดนึง ส่วนห้องน้ำเป็นส้มซึมสไตล์เก่าหน่อยๆ แต่ใช้งานได้

เราออกไปสำรวจเมืองโดยเริ่มจากสะพานใกล้ที่พัก โดยต้องซื้อตั๋วเข้า แต่ตอนไปซื้อพี่เค้าบอกเข้าไปเลยๆ พร้อมยื่นตั๋วมาให้ 2 ใบ เฮ้ย!!!! เมืองจีนมันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะ

ทางเข้าจะมีผีก๋องก๋อย (ผีในหนังจีน) ยืนหลอกหลอนคนเดินผ่านไปมาอยู่ ใครจะถ่ายรูปกะเฮียแกก็ได้ เราตื่นตาตื่นใจวิ่งไปถ่าย กับ น้องสาว พร้อมถามว่า Free? ผีคงฟังไม่ออก หรือ ฟังออก พร้อมพยักหน้าหงกๆ เราก็เข้าใจว่า Free ถ่ายเสร็จเสียตังค่าาาาาา ผีจะเอาคนละ 20 หยวน เราบอกไม่ให้ ไหนบอกฟรี แล้วเค้าก็บ่นงึมงำๆ อะไรก็ไม่รู้จากนั้นก็มีคนมาขอถ่ายรูปกับผีเยอะเลย เราแอบอาศัยจังหวะนี้เดินหนี ผีวิ่งตามจ้าาาาาา หยิบแบงค์ 20 ขึ้นมาพร้อมบอกว่าคนละ 20 เราส่ายหัวไม่จ่าย และแล้วเราก็บอกว่า 2 คน 10 หยวน เอาก็เอาไม่เอาก็ไม่ให้ ผีต่อรองบอกไม่ได้ เราทำท่าเดินจะเดินหนี จนในที่สุดผีก็คว้าหมับ 555 เสียไป 10 หยวน เดินเข้าไปอีกหน่อยมีตือป๊วยก๋าย กับ หงอคง คิดเหรอว่าฉันจะถ่าย ฝันไปเถอะย่ะ สะบัดบ๊อบเดินช้อปข้างในต่อดีกว่าโดนผีหลอก

ตื่นตาตื่นใจมองไปทางไหนก็อ่านไม่ออกมีแต่ภาษาจีน เดาเท่านั้นค่ะ แต่วิวสวยดีนะ

เดินเสร็จกลับที่พักนอน พร้อมลุยต่อในวันพรุ่งนี้

Day 2 เขาเทียนจื่อซาน-จางเจียเจี้ย (ในเมือง)

เช็คเอ้า ฝากของไว้ที่โรงแรม และ ออกจากที่พักตอน 7.00 น. เพื่อไปอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย หรือ เขาเทียนจื่อซาน โดยยืนโบกรถเมล์อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมรอรถสาย 2 โบกอยู่เกือบชั่วโมง Victor บอกว่ารถจะมาทุก 10 นาที ไม่เห็นมีแม้แต่เงา (การดูว่าเป็นรถสายไหนให้ดูตรงหัวรถด้านข้าง เกือบถึงล้อรถจะมีตัวเลขเล็กๆบอกอยู่) จนไกด์คนหนึ่งเดินมาถามว่าจะไปไหน ถ้าจะไปหุบเขาไม่มีรถเมล์สายนี้ไปนะ ต้องพี่แท็กเท่านั้นจ้า เราเลยโบกแท็กซี่ไปเลยค่ะ 10 หยวน เดินต่อประมาณ 5 นาทีก็ถึงประตูทางเข้าอุทยาน

ซื้อบัตรราคา 245 หยวน จากนั้นไปต่อคิว สแกนนิ้ว เจ้าหน้าที่จัดคิวได้ว่องไว ชี้ให้ไปขึ้นคันโน้น คันนี้ ไม่ต้องตกใจ ถึงที่หมายเหมือนกัน แต่อาจจะเริ่มคนละจุด โดยของเราเดินเริ่มจาก 

1. ขึ้นลิฟต์แก้ว Bailong Elevator เป็นลิฟท์กลางแจ้งที่สูงที่สุดในโลก โดยสูง 326 เมตร ครั้งหนึ่งในชีวิตเราต้องไปลอง มาแล้วอย่าให้เสียเที่ยว โดยต้องซื้อตั๋วขึ้นคนละ 72 หยวน ต่อคิวยาวพอสมคมควร ก่อนขึ้นมองดูลิฟท์แก้วจากข้างนอกมันดีงามพระราม 9 มาก ดูเว่อร์วัง อยากจะขึ้นๆๆๆๆๆๆ อดใจไม่ไหว รีบพุ่งตัวไปอยู่ด้านหน้าสุด เพื่อจะได้เก็บภาพประทับใจ มือนึงถือ Gopro มือนึงถือกล้อง พร้อมสุดฤทธิ์ เมื่อลิฟต์ปิด พร้อมจะพุ่งขึ้นฟ้า เหมือนดังจะจรวดจะพุ่งไปดวงจันทร์ เอาละเว้ยๆ วิวหมื่นล้านมาแล้ว กำลังจะกดชัดเตอร์ แต่….ทำไมกระจกมันมัวจังวะ มองไม่เห็นวิวด้านนอกเลย ในขณะที่คนจีนเกือบทั้งลิฟต์ร้อง “ว้าว…ว้าวๆๆๆ” พวกเธอเห็นอะไรด้านนอกเหรอ ทำไมเราไม่เห็นอะไรเลย หรือ พวกเธอตื่นเต้นที่ลิฟต์ขึ้น บอกหน่อยดิ เอา 72 หยวนช้านคืนมา ม่ายยยยยยยยยวิวลิฟท์แก้วจากด้านนอกความมัวของลิฟท์แก้ว

ถึงที่หมายลิฟต์เปิดออก ความอลังก็ปรากฏ “มัน งาม มาก” ภาพอาจจะบอกได้แค่ว่าสวยไม่สวย แต่ของจริงเท่านั้นที่จะบอกได้ว่ามันอลังแค่ไหน ไกลสุดลูกหูลูกตาเต็มไปด้วยภูเขาแท่ง มันคือหมื่นล้านสินะ ระหว่างเดินไปเค้าจะมีจุดให้ถ่ายรูปเป็นพักๆ และ มุมเจ๋งๆจะมีช่างกล้องนั่งอยู่เพื่อรอถ่ายและเก็บเงิน เราเริ่มเดินไปทางด้านซ้าย ไปยัง Natural bridge in the world และเดินตามทางมาเรื่อยๆ

2. เดินลัดเลาะตามทางมาเรื่อยๆ โอ้ย ชอบอ่ะ จะเจอนกยักษ์จากหนังอวตาร ทีเด็ดอยู่ที่วิวด้านหลัวนะฮะ ต้องมาดูเองสวยว่าในหนังอีก

ใกล้ๆกันจะมีสะพานข้ามคนแน่นขนัด เดินไม่ดีมีเสียวนะฮะ เดินจนปวดขาเลยแต่อยู่ในโหหมดอินเลยไม่รู้สึกเหนื่อย ดื่มด่ำธรรมชาติแป๊ป!!!ในรูปอาจจะดูเล็กแต่ของจริงสูงใหญ่เว่อร์วังอลังมาก ดูจากฐานซะก่อนเดินต่อมาจะเจอบ่อน้ำ เหมือนจะเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อะไรซักอย่าง เห็นคนที่ผ่านไปมาเค้าต้องเอามือไปสัมผัสน้ำ ลูบหน้า ลูบหัว บางคนดื่มก็มี เราเลยเอากะเค้ามั่ง เผื่อจะโชคดีไปทางไหนคนก็แน่น เราอยู่เกือบจะถึงยอดเขาสูง โอ้วววว เดินมาได้ไกลขนาดนี้เลยเหรอ วิวมันดีงามใช่เล่น

3. เดินเสร็จ ออกมาด้านหน้าจะมีจุดขึ้นรถบัสไปยังจุดขึ้นกระเช้า Cable Car ด้านบนสุด เพื่อลงมาด้านล่าง ซื้อตั๋วคนละ 72 หยวน เรากะน้องได้แต่พูดว่า สวยเนอะๆ เพราะโชคดีที่ฟ้าเปิด แดดจ้า ฝนไม่ตกเลย แต่มีหมอกเล็กน้อย ฟินมากสลับกันถ่ายรูปไปมาเพราะทั้งกระเช้ามีแค่เราสองคนตั่วขึ้นกระเช้า Cable carนางแบบฟินเลย เหม่อเบาๆ

ลงมาถึงด้านล่าง จะเป็นจุดชมวิวอีกที่ (Lower Station Tianzi Mountain Cableway) ที่นี่จะมีจุดขึ้นรถบัสไปยัง รูปปั้นท่านประธาน และ Four Streams Crossroad ด้วย

4. นั่งรถบัสลงไปด้านล่าง แต่ก่อนจะลงไปด้านล่าง รถบัสจะจอดอีกจุดหนึ่ง เห็นแก๊งทัวร์ลง ด้านหน้ามันดูร้างๆ เราเลยไม่ลง เลยลงไปด้านล่าง พอรถบัสลงไปก็เอ๊ะใจ กางแผนที่ดู แล้วถามคนขับว่าจุดนี้อยู่ไหน คือจะไปหารูปปั้นท่านประธาน คนขับบอกก็จอดเมื่อกี้ไง ตอนนี้เราลงมาแล้ว จะถึงจุดชมน้องอวตารตัวสูงแล้วนะ เค้าไม่วนไปส่งแล้ว ฮือๆ….เราเลยอดเจอท่านประธานเลย แต่ก็ยังดีที่มา Four Streams Crossroad มาดูอวตารตัวสูงที่คนแน่นมากแม่น้ำข้างๆมีคนจีนลงเล่นน้ำกันใหญ่เลย เราว่าอากาศมันน่าจะร้อน

5. นั่งรถบัสกลับไปยังจุดเริ่มต้น ที่มาซื้อตั๋วครั้งแรกเลย เดินออกมาด้านหน้าที่เดิม โบกแท็กซี่กลับไปที่พัก โดยแวะสะพานเมื่อคืนก่อน แล้วค่อยเดินกลับไปที่ Hostel 

ตอนกลางวันเงียบมาก แทบจะไม่มีคนเดินมีแต่เราสองคนแหละมั้งที่มา ถ่ายรูปเสร็จเดินกลับที่พัก เพราะต้องไปซื้อตั๋วรถไปในเมืองจางเจียเจี้ยกลัวมันมืด เรากลับมาถึงที่พักบ่าย 4 โมงกว่าๆ และตัดสินใจให้ Victor ลูกเจ้าของ Hostel จองตั๋วไปขึ้นเขาเทียนเหมินซานให้ ดูท่าทางน่าไว้ใจอยู่บ้าง เพราะไม่อยากจะไปซื้อตั๋วพรุ่งนี้เช้า กลัวไม่ทัน คนละ 240 หยวน เค้าขอ Passport และ อาสาจองให้ แต่ยังไม่ได้อีเมล์ยืนยัน เราก็นั่งรอ ผ่านไปเกือบชั่วโมงก็ยังไม่ได้เมล์ยืนยันการจอง เค้าให้เราแอดไลน์ และ ถ้าได้เมล์ยืนยัน จะส่งมาให้ เค้าบอกเราว่าเชื่อเค้าได้ว่าพรุ่งนี้ต้องได้ตั๋ว เราก็เชื่อใจนึงก็กลัวโดนชักดาบ เค้าบอกว่าเค้ามีเพื่ออยู่มนเมืองถ้าจองไม่ได้จะเอาเงินไปคืนให้ เอาวะลองดูไหนๆก็ไหนๆละ Victor บริการดีมาก ถามว่าจะไปพักที่ไหนต่อ และ จัดการเขียนทุกอย่างเป็นภาษาจีนใส่กระดาษใ้ห้เรา เพื่อยื่นให้พี่แท็กอ่าน โบกแท็กซี่ให้ไปส่งที่สถานีรถบัสอีกตะหาก ในราคา 8 หยวน (ถูกแพงไม่รู้รู้แต่จ่ายตังอย่างเดียว) 

พอถึงเราก็ไปซื้อตั๋วรถตู้ไปในเมืองจางเจียเจี้ย ราคา 12 หยวน ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที คนเต็มรถก็ออกเลยเร็วดีจริง (รถออกทุกๆ 10 นาที ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น.) ประมาณ 1 ทุ่มเราก็มาถึงสถานีรถบัสจางเจียเจี้ย และ ซื้อตั๋วรถบัสเพื่อไปเฟิ่งหวงรอบ 14.30 น. ราคา 80 หยวน เพราะคิดว่าเดินบนเขาเทียนเหมินซานไม่น่าจะนาน 

จากนั้นก็ไปที่พัก Zhangjiajie Yijiaqin Hotel จัดการเช็คอิน เก็บของ ได้รับ Message จาก Victor ว่าตั๋วที่จองไว้ได้รับการ Confirm พรุ่งนี้ไปเอาได้เลย โล่งใจขึ้นมาหน่อยมีตั๋วแล้ววุ้ยยยยยยที่พักคืนนี้เตียงนุ่มๆ สะอาด ใหม่มาก นอนสะบายห้องน้ำเป็นชักโครก เหมาะกับคนไทยเป็นยิ่งนัก

จากนั้นออกมาสำรวจสถานที่ขึ้นกระเช้าในวันพรุ่งนี้ และเก็บบรรยากาศยามเย็น คนที่นี่ดูเหมือนไม่มีน้ำใจแต่จริงๆ เราว่าเค้าช่วยเราเยอะเลย เค้าจะเดินมาถามมีอะไรให้ช่วยมั๊ย เราก็ชี้ๆ เค้าจะจะบอกว่าไปทางนี้ๆๆ ทางนั้นๆๆ เราไม่รู้ว่ามีอะไรแอบแฝงรึป่าว แต่เราว่าเค้าช่วยเราเยอะเลย แก๊งสาวๆๆ กำลังเสวนาภาษาจีน ดูจากชุดลายบนลายล่างมันช่างเป็นดีไซน์ที่เก๋ไก๋ยิ่งนัก

แวะกินก๋วยเตี๋ยวแถวๆจุดขึ้นกระเช้า เป็นร้านริมทาง เห็นคนเยอะ โดยเค้าจะขายเป็นไม้ ไม้ละ 2 หยวน มีให้เลือกหลายแบบทั้งสาหร่าย ลูกชิ้น ไข่ เต้าหู้ทอด ฯลฯ และ จะมีเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เลือกว่าจะเอาเส้นแบบไหน อร่อยล้ำ ซัดไป 2 ชามเลย รวมแล้วของเราชามละ 12 หยวน (เลือกเครื่องที่จะใส่ และ ประเภทเส้นเอง)มีเส้นให้เลือกหลายแบบ และ เลือกเครื่องเองจะขายเป็นไม้ ไม้ละ 2 หยวน อยากใส่อะไรก็หยิบได้เลย 

กลับที่พักด้วยความเหนื่อยล้า ขาสั่น พั่บๆๆๆๆๆ สลบกันไปตามระเบียบ ตอนเดินไม่เหนื่อย พอถึงที่พักแค่นั้นแหละ ความเหนื่อยมาเต็ม

Day 3 เขาเทียนเหมินซาน-เฟิ่งหวง

ตอนเวลาเดิม 6โมงเช้า ออกจากที่พักเวลา 7 โมงเช้า รีบแจ้นไปรับตั๋วที่จุดขึ้นกระเช้าแถวๆสถานีรถบัส และ สถานีรถไฟ (ไม่ไกลกันมากเดินได้) ตามที่ Victor บอก โดยจุดซื้อตั๋วจะอยู่ด้านหน้าเป็นเครื่องอิเล็กทรอนิก แต่เราเข้าด้านข้างจะมีพนักงานขายตั๋วอยู่ด้านใน Victor ให้เรามาที่ช่องหมายเลข 4 โชว์ Message พร้อม Passport ให้เจ้าหน้าที่ดู คนน้อยกว่าซื้อที่ตู้ด้านหน้า แต่รอคิวนานมากเพราะเล่นซื้อกันเป็นปึก สำหรับกรุ๊ปทัวร์ พอได้ตั๋วแล้วเค้าจะมีรอบระบุบนหน้าตั๋วว่าจะต้องเข้ากี่โมง คนเยอะมากยังกะมหกรรมแจกของฟรี เราได้คิวรอบ 9.30-10.00 น. ขณะนี้เวลา 8 นาฬิกา นั่งรอไปค่ะ (นี่ขนาดมา 7 โมงเช้านะ)ตั๋วขึ้นกระเช้า

นั่งเบื่อๆ เลยเดินไปสำรวจพื้นที่ เจอร้านไอติมข้างๆเลยซื้อไอติมถั่วเขียวมาลอง ลำขนาดเน้อ จัดไป 2 แท่งเลย ราคาแท่งละ 5 หยวน เนื่องจากติดใจเจอร้านไหนก็ต้องซื้อกิน ใครมาอย่าลืมกินนะไอติมถั่วเขียว

ซักพักก็เรียกคนที่ได้รอบ 9.30 -10.00 น. ไปต่อคิว คนแน่นมากได้ขึ้นกระเช้าเกือบ 11 โมง ใจคิดว่าตั๋วที่จองไปเฟิ่งหวงตอน 14.30 น. ไม่ทันแน่ รีบเดินรีบกลับละกัน โดยกระเช้าเค้าจะให้ขึ้นทีละ 8 คน (ที่รอคิวนานก็เพราะแบบนี้แล)

ไปกัน!!!!! วิวระหว่างทางขึ้นเขา ยิ่งสูงยิ่งสวย เหมือนอยู่บนสวรรค์ วิวงดงามปกคลุมไปด้วยหมอก

ผ่านทาง 99 โค้ง งดงาม

ซักพักก็ถึงที่หมายเราเริ่มเดินไปทางซ้ายเพื่อขึ้นไปจุดสูงสุด คือ Tianmen Mountain Templeก่อน จากนั้นนั่งกระเช้าลงมา ยังจุดเริ่มต้น จากนั้นเดินไปทางขวาไปชมปล่องประตูสวรรค์ Tianmen Cave ต่อรถตู้กลับเข้าเมือง โดยรถตู้จะขับผ่านเส้นทาง 99 โค้ง ตามที่ ​Victor แนะนำเรามา

แผนที่การเดินทางบนเขาเทียนเหมินซาน

ระหว่างทางไปยัง Tianmen Mountain Temple วิวงามๆแวะ เดินผ่าน Glass Plank Road คนละ 5 หยวน

ตอนจะมาสถานที่ที่ชอบคือหุบเขาอวตาร แต่พอมาแล้วเราว่าชอบที่นี่มากกว่า วิวมันงามกว่า ฟินกว่า (ถ้าไม่อยากหลงให้เดินลัดเลาะรอบรั้วไปเรื่อยๆ ไม่หลงแน่นอน)

เฮ้ย!!! มีสะพานข้ามด้วยอ่ะ วิวดีมากขอบอก เดินไปๆ หมอกเริ่มมากเยอะ มองไม่เห็นทางเลย

ในที่สุดก็ถึง Tianmen Mountain Temple พร้อมกับฝนตก เสื้อกันฝนที่แบกมาตั้งแต่วันแรกได้ใช้แล้วซินะ

แม้ฝนจะตกคนก็ยังต่อคิวขึ้นกระเช้ากันอย่างเหนียวแน่น เราก็เช่นกัน 555 ตั๋วขึ้นกระเช้าราคา 25 หยวน ซื้อที่ตู้ขายตั๋วตรงนั้นเลย กระเช้าโล่งไม่มีกระจกกั้นมีแต่ราวกั้นด้านหน้า แอบมีความเสียวในการนั่งจะตกรึเปล่าน้า เมื่อกระเช้ามาถึงต้องรีบหย่อนก้นนั่งให้ทันเนื่องจากมันไม่ได้หยุดให้เราขึ้น ต้องใช้ความว่องไว และ เทคนิคเฉพาะตัวนั่งไม่ดีอาจตูดกระแทกพื้นได้ ตอนแรกก็กลัวๆ แต่พอนั่งไปแล้วสนุกดีชอบๆ 

เดินลงมาด้านล่างตรงที่ขึ้นกระเช้ามาครั้งแรก เดินไปทางขวา ไปยัง Tianmen Cave ถามคนแถวนั้นเค้าบอกไม่ไกลใช้เวลาประมาณ 30 นาที ขณะนี้เวลา 12.15 น. รถไปเฟิ่งหวงออกเวลา 14.30 น. ยืนคิด เอาไงดี จะทันมั๊ย และแล้ว “ไปค่ะ” น่าจะทันไหนๆก็มาละ ลงบันไดเลื่อนไปยัง Cave นานมาก ยาวมาก กว่าจะถึง และคนเยอะมาก อีกอย่างคิวนั่งกระเช้าลงก็เยอะเช่นกัน คือยังไงก็ไม่น่าจะทันเลยตกลงกันว่าถ้าไม่ทันก็ไม่เป็นไรนะ ซื้อตั๋วใหม่ละกัน (อย่าลืมเผื่อเวลาด้วยนะคะ ตอนขามาคิวแน่นมาก เวลาเราเลยน้อยลง จะได้ไม่พลาดแบบเรา)วิวระหว่างทางไป cave

พอถึงทางเข้า เราต้องลงบันไดเลื่อน ซึ่งมันยาวมาก กว่าจะถึงทุกคนเลยทำสิ่งนี้ นั่งซิคะ รออะไร 

ถึงแล้ว Tianmen Cave วิวอลังจริง

ชม Cave เสร็จรีบเดินลงไปขึ้นรถตู้ด้านล่างกะจะถ่ายรูปวิวข้างทาง แต่ฝนตก และหมอกเยอะมาก แทบจะมองไม่เห็นทาง ระหว่างทางนั่งรถตู้เป็นทาง 99 โค้งด้วย ลุ้นกันหูดับตับไหม้ เพราะมีทั้งรถขึ้นและรถลง ค่านั่งรถตู้ฟรีนะคะไม่เสียตัง และแล้ว เราก็มาถึงในจุดขึ้นกระเช้า ในเมืองจางเจียเจี้ย เวลา 15.38 น. รีบจ้ำเท้าไปโบกแท็กซี่ กลับที่พักเก็บของ มาถึงสถานีตอน 4 โมง 

เพลงมาค่ะ ช้านเหมือนคนกำลังจะตายละหมดแรงจะเดินจะลุกจะเดินไป นั่งคุกเข่า คอตก ใจสลาย “ตก รถ ค่ะ” รถออกไปแล้ว คืนตั๋วก็ไม่ได้จำใจต้องซื้อใหม่ ใครจะขึ้นกระเช้าแนะนำว่าให้เผื่อเวลาไว้ด้วยนะคะ หรือ จะจองรถรอบสุดท้ายไปเลยก็ได้ แต่อาจจะไปถึงเฟิ่งหวงดึกหน่อย รถที่นี่ออกตรงเวลามาก เราซื้อตั๋วรอบ 17.50 น. ราคา 80 หยวน ต่อคน ใช้เวลา 4 ชั่วโมง น้ำตาจิไหล

เรามาถึงเฟิ่งหวงเวลา 22.00 น. โบกพี่แท็กไปยังฝั่ง Old Town เป็นย่านที่คนนิมยมอยู่กันมากที่สุด ต่อราคาได้ 15 หยวน เนื่องจากทางโรงแรมบอกว่าไม่เกิน 10 หยวน แต่มันดึกแล้วเอาว่ะ 15 ก็ 15 มาถึงที่พักเจ้าของกำลังจะออกไปข้างนอกพอดี บุญจริงๆ เช็คอินโยนทุกอย่างออกจากตัว เข้าห้องน้ำ แล้วออกไปแรดค่ะ แม้จะเหนื่อย และ สลบมาตลอดทาง เมื่อถึงที่หมายใหม่เราต้องสู้

วิวยามค่ำคืนเฟิ่งหวงที่มันแบบชิว เสียงสี งดงาม เบียร์เย็นซักกระป๋อง นั่งริมน้ำ ชิวจะตาย

ร้านค้าและผับปิดตอนเที่ยงคืน เราเดินกลับที่พักแบบเงียบมาก ช่างแตกต่างจากตอนเย็น

Day 4 เฟิ่งหวง-ฉางซา

ตื่นเช้าเช่นเคย ออกไปถ่ายรูปวิวเมื่อคืน ตอนเช้าๆจะมีหมอกด้วย 

เดินไปเรื่อยๆ แวะนั่งเรือชมเมืองราคา 30 หยวนต่อคน

กะจะถ่ายรูปชิคๆตรงสะพาน มีลุงเปิดพุงยืนอยู่ด้านบน รอนานมากวักมือแกลงมาก็ไม่ยอมลง เออ ถ่ายมันยังงี้แหละ ติดลุงเปิดพุงมาด้วยก็ไม่เป็นไร พอถ่ายเสร็จลุงเดินลงมายิ้มๆ นี่แกล้งกันใช้มั๊ยลุงงงงงงงง

9โมงเช้ากลับที่พัก กะจะไปเช็คเอ้าก่อน เจ้าของที่พักบอกว่าถ้าจะซื้อตั๋วกับเค้าก็ได้นะ เค้ามีอีกบริษัทหนึ่งรับจองตั๋ว เอาสิคะ รอไร เราเลยให้เค้าจองตั๋วจาก เฟิ่งหวงไปฉางซาให้ในราคา 140 หยวน ต่อคน เวลา 12.30 น. เจ้าของที่พักพูดภาษาอังกฤษได้ เขียนสถานที่ต่างๆเป็นภาษาจีนให้อีกแล้ว ดีงาม ยื่นให้อ่านอย่างเดียวเลย จากนั้นก็ไปเดินเล่นริมแม่น้ำอีกฝั่ง ฉันชอบสไปเดอร์แมนที่นี่ มีความยูนีคคคคค

ขากลับเดินลัดเลาะกำแพงมาด้านล่าง ก่อนถึงทางเข้า East Zone จะมีร้านขายก๋วยเตี๋ยว แวะกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อใกล้อร่อยมาก รสชาติคล้ายๆเฝอ ใครผ่านมาอย่าลืมแวะน้า

เดินเสร็จก็รีบไปสถานีรถบัสเพื่อไปฉางซา จุดพีคคือรถบัสไม่มี นั่งรอแล้วรออีก รอจนรากงอก เจ้าหน้าที่บอกว่าจะจะมาบ่าย 2 รอไปค่ะ มาบ่าย 3โมงเนื่องจากติดปัญหาบางประการ ทำให้เราถึงที่ฉางซา 20.00 กว่าๆ จากนั้นเดินออกมาตรงถนนใหญ่โบกแท็กซี่ไปที่พัก ราคา 25 หยวน โดยเอากระดาษที่เจ้าของ Hostel ที่เฟิ่งหวงเขียนให้โชว์ให้พี่แท็กซี่อ่าน เช็คอินที่ Jinjiang Inn Changsha Wuyi Square มันคือโรงแรมในเมืองหลวง ภายในห้องพักมีอุปกรณ์ให้ครบเลย

เช็คอินเสร็จแล้วก็ออกมาหาอะไรกินข้างโรงแรม เค้ามี Street Food อยู่ปิดเที่ยงคืน เดินไม่ถึง 2 นาที เจอร้านเหล้าไหค่ะ เหมือนเป็นเหล้าหมักคนเยอะเลย เลยแทรกตัวด้วยความเผือกไปดูว่ามีอัลไล อ่อ!!! เค้าให้ชิมฟรีค่ะ เราสองคนเลยลองกันใหญ่ อืมรสนี้อร่อยหวานดี รสนี้ก็กลมกล่อม พนักงานก็ชงเต็มที่เอานี่ลองอีกๆ นะแดกซิคะ คือชิมไปเยอะหลายอย่างจนมึน อยากจะแบกกลับเมืองไทย แต่ไม่ได้เอากระเป๋าล้อลากมา และกลัวมันแตก ไหละ 300 กว่าบาทเองแสนจะถูก

เดินๆ เจอร้านเต้าหู้เหม็น คนต่อคิวยาว เลยลองชิมดูปรากฎว่าร้านนี้อร่อยมาก ต้องเบิ้ล 2 ถ้วยอ่ะ กลิ่นไม่เหม็นเลย ถ้วยละ 10 หยวนเองไปขอเค้าถ่ายรูปด้วย ฮี่ๆ

อันนี้ยอดฮิตเห็นเกือบทุกคนต้องถือ มีหรือฉันจะพลาด น้ำมะม่วงปั่นที่มีควันพุ่งออกมาจากแก้ว โปะหน้าด้วยไอศครีม และ เนื้อมะม่วง ในราคา 30หยวน

เดินเกือบเที่ยงคืน ขากลับผ่านร้านเหล้า เค้าเรียกให้ไปชิมอีก ก็บ้าไปกับเค้าชิมอีก หลับสบายเลยคืนนี้

Day 5 ฉางซา-กรุงเทพ

เช้านี้ตั้งใจว่าจะไปเกาะส้มตามแพลน แต่ด้วยเมื่อคืนชิมเหล้าไปนิดหน่อยเลยไม่ตื่น อดไปเกาะส้มเพราะไม่มีเวลา เลยเปลี่ยนแผนเป็นหาอะไรกินที่ข้างโรงแรม และ ไปสนามบินแทน

การเดินทางไปสนามบินจากโรงแรม Jinjiang Inn Changsha Wuyi Square

1. นั่งรถเมล์หรือ Taxi ไปลงที่ Civil Aviation Hotel ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฉางซา 10 หยวน

2. ซื้อตั๋วรถ Airport Bus จากด้านหน้าโรงแรม ราคาคนละ 15.50 หยวน คนนั่งเต็ม รถก็ออก (อาจจะต้องเผื่อเวลาเล็กน้อย) รถ Airport Bus ใช้เวลาวิ่งไปยังสนามบินประมาณ 35-40 นาที

3. เช็คอินที่เคาน์เตอร์ D64-66

เดินทางกลับกรุงเทพด้วยความปลอดภัยเวลา 15.30 น. โชคดีนะที่สั่งอาหารมาทานบนเครื่องไม่งั้นหิวแย่เลย เมนูของเราในวันนี้คือ ข้าวเหนียวไก่ย่างข้าวเหนียวไก่ย่าง อร่อยข้าวเหนียวนุ่ม ไ่ก่หอม (หรือเพราะหิวกินซะเกลี้ยงเลย)

เราเคยคิดว่าเราจะมาจีนก็ต่อเมื่อไปประเทศอื่นมาหมดแล้ว เพราะคนจีนเสียงดัง ​ชอบโวยวาย ชอบแก่งแย่ง วุ่นวาย แต่พอเรามามันก็มีบ้างที่เป็นแบบนั้น แต่อีกมุมหนึ่งที่เราเห็นคือสถานที่ท่องเที่ยวเค้าสวย งดงาม คุ้มค่าที่ได้มา การดูด้วยภาพบางครั้งก็อาจจะไม่ได้รับรู้ความรู้สึกเท่ากับการดูด้วยตา และคนส่วนใหญ่ที่เจอคือคนที่มีน้ำใจ อาจจะเป็นส่วนน้อยแต่เราก็เจอ เรารับรู้ได้ว่าเค้ามีส่วนทำให้ทริปของเราสมบูรณ์ แม้ภาษาจีนเราจะไม่กระดิกก็ตาม แต่เราสามารถใช้ภาษามือ กับ รูปภาพ คอยถาม ก็สามารถสื่อสารกันได้ ถ้ามีโอกาสเราจะกลับไปอีกครั้งไม่ว่าที่นั่นจะเป็นที่เดิมหรือไม่ก็ตาม เพราะเราเชื่อว่าแต่ละครั้งที่ไปสถานที่อาจจะเหมือนเดิมแต่ความรู้สึก และ ความทรงจำ มากกว่าที่ไม่เหมือนเดิม

สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อทริป (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน) สำหรับตั๋วเครื่องบิน ถ้าต้องการไปแบบประหยัดแนะนำให้ไปกับแอร์เอเชีย ตั๋วถูก บินตรงสู่ฉางซาทุกวัน สะดวก อยากไปเมื่อไหร่ก็ไปได้เลย ไปจีนไปกับแอร์เอเชีย คุ้ม!!!

ดาวน์โหลดแผนการเดินทางได้ที่นี่ (คลิ๊กที่ลิ้ง จากนั้นกดปุ่มลูกศรชี้ลง เพื่อดาวน์โหลด):

https://drive.google.com/file/d/0B8cLhH3UNuhoWWxFSVcyMERFYlE/view

ไปคุยกันนะ:

YouTube: http://bit.ly/2m79day

IG: https://www.instagram.com/a_traveler_blog/

Twitter: https://twitter.com/A_Traveler_Blog

Website: http://atravelerblogs.com

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s