เดินทางเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองง่ายๆ ทำยังไง

เดินทางเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองง่ายๆ ทำยังไง x JR Pass 

ถ้าจะบอกว่าประเมศที่คนไทยไปเที่ยวมากบ่อย และ ชอบกันเป็นส่วนใหญ่คงจะหนีไม่พ้นญี่ปุ่น เพราะประเทศนี้เดินทางง่าย อาหารอร่อย ผู้คนใจดี มีน้ำใจ สถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เราชอบไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ ส่วนปีนี้จำได้ว่าไปมาครั้งที่ 5 แล้ว แต่ไปคนละเมือง การเดินทางส่วนใหญ่ก็มีทั้งนั่งรถไฟ รถบัสนำเที่ยว แต่ยังไม่เคยขับรถเที่ยวเอง

แล้วถ้าเกิดว่ายังไม่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นเลยไปครั้งแรกต้องทำยังไง เราว่าทุกคนต้องมีประสบการณ์ของการเที่ยวครั้งแรก ที่เป็นกังวลว่าเราจะต้องทำยังไง ไม่ให้หลง ไม่ให้งง 

1. วางแผนและหาข้อมูลการเดินทาง 

การเริม่ต้นจะไปเที่ยวเราต้องรู้ก่อนว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหน ในประเทศญี่ปุ่น เพราะแต่ละที่นั้นมีความสวยงามแตกต่างกัน ไปกี่วัน และอยากไปที่ไหนบ้าง อยากไปเอง หรือไปกับทัวร์ ถ้าเป็นเราแนะนำว่าไปเองสนุกกว่า ได้ประการณ์ เดินหลงบ้าง ได้เจอที่ใหม่ๆบ้างด้วยตนเองเราจะสามารถจำสถานที่แห่งนั้นได้ดี แต่ถ้ากังวลมากก็ไปกับทัวร์ก็ได้ ไม่ว่ากันสบายไปอีกแบบ ส่วนการหาข้อมูลนั้นหลักๆเลยคือ Google, Pantip, เว็ปไซด์ต่างๆ ทั้งของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น หนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่น หรือแม้แต่รีวิวตาม Blog ต่างๆ ที่สามารถให้ให้ข้อมูลการเดินทางและเป็นไกด์ไลน์ในการนำทางเที่ยวไ้ด้

 2. อยากไปเที่ยวฤดูไหน

ญี่ปุ้นนั้นเราว่าเป็นประเทศที่เราสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปีอยู่แล้ว แต่ละฤดูก็มีความน่าสนใจแตกต่างกัน เช่น

1. ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม – พฤษภาคม) อากาศอบอุ่น-เย็น หลายคนมาเที่ยวช่วงนี้เพราะว่าต้องการมาชมซากุระที่นี่ 

2. ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน – สิงหาคม) อากาศร้อบอบอ้าวไม่ค่อยแตกต่างจากบ้านเรามากเท่าไหร่ เรามาที่นี่โดยส่วนใหญ่ก็เป็นช่วงฤดูนี้แหละ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ไปหน้าอื่นบ้าง

3. ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน – พฤศจิกายน) อากาศเริ่มเย็น เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีส้ม สีแดง สวยงาม ยังไม่เคยมาครั้งหน้าต้องมาบ้างแล้วหล่ะ 

4. ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์) อากาศหนาว ทุกอย่างจะขาวโพลนไปด้วยหิมะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบอากาศหนาว  อยากเล่นสกี คิดถึงฮอกไกโดขึ้นมาทันที

3.จองตั๋วเครื่องบิน และ ที่พัก

-ตั๋วเครื่องบิน

เป็นปัจจัยหลักของการตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีสำหรับเรา เพราะว่าบางทริปที่แพลนไว้ว่าจะไปดันไม่ได้ไปเนื่องจากสู้ราคาไม่ไหว แต่บางทริปไม่คิดไม่ฝันว่าจะไปดันได้ไปซะงั้น และทริปนี้ก็เช่นกัน ช่องทางการหาตั๋วเครื่องบินหลักหลักของเราคือ

Expedia หลากหลายสายการบินให้เลือก โดยส่วนใหญ่จะแสดงเส้นทางไป-กลับเป็นสายการบินเดียวกัน หรือให้เราเลือกสายการบินขาไป และ ขากลับตามราคาที่เราพอใจ

Skyscanner จะแสดงสายการบิน เวลาบิน หลากหลาย จับคู่กันให้เราเลือกเลย พร้อมราคา สะดวกดี

CheapTicket, eBookers, Traveloka เหมือน Expedia

เวปไซ์ตรงของสายการบิน

เพจที่แจ้งโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินต่างๆค่ะ เช่น อาแปะ, ติดโปร, เพื่อนบอกโปร ช่วยเรามาหลายทริปแล้ว

เทคนิคการเลือกตั๋วเครื่องบินและช่วงเวลาบิน

1สำรวจงบประมาณของตัวเองว่าเพียงพอที่จะใช้บริการสายการบินนั้นหรือไม่

2เมื่อเลือกสายการบินได้แล้วให้เลือกช่วงเวลาที่จะเดินทางทั้งเวลาที่ออกจากเมืองไทย และ กลับจากยุโรป รวมถึงระยะเวลาในการเปลี่ยนเครื่องด้วย โดยขาไปอาจจะเลือกช่วงเวลาบินกลางคืน ถึงที่นู่นตอนเช้าแล้วเที่ยวเลย ส่วนขากลับให้เลือกเที่ยวบินตอนกลางคืน เพราะจะได้เก็บตกวันสุดท้ายได้ด้วย

3ดูความคุ้มค่าที่จะได้รับระหว่างการเดินทางบนเครื่องบิน หรือ สิ่งอำนวยความสะดวก อาหาร เครื่องดื่ม นั่นเอง

-ที่พัก

ในส่วนนี้ขึ้นกับงบประมาณของนักเดินทางว่ารับได้ที่ราคาไหน สำหรับเราแล้วเราเลือกที่พักราคาประหยัดแต่ไม่ถึงกับประหยัดมาก ที่พักสะอาด เดินทางสะดวก ใกล้สถานีรถไฟ หรือจุดขึ้นรถบัส สำหรับการเดินทางระหว่างเมืองจะได้ไม่ต้องแบกของหนัก และ เดินไกล แนะนำเวปจองที่พัก booking.com, Agoda, Airbnb, HostelBookers, TripAdvisor, Orbitz, Hotel.com, Hotel Search, Expedia, Traveloka, ebookers, Hotelcombined, Hoteltravel

4.เช็คลิสการเดินทาง

-พาสปอร์ต ควรมีอายุมากกว่า 6 เดือน เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบใส่ซองหุ้มพาสปอร์ตไว้ จำไว้ว่าตอนที่จะเข้าเครื่องสแกนให้ถอดออกก่อนนะคะ เพราะถ้าไม่ถอดเครื่องมันจะไม่อ่าน เนื่องจากมันจะไม่พอดีกับเครื่อง

-เสื้อผ้า รองเท้า ให้เหมาะกับสภาพอากาศ เป็นชุดที่เราใส่สบายสามารถเดินได้ทั้งวัน เราชอบเครียมรองเท้าแตะไปด้วยเอาไว้ใส่ตอนกลางคืนเวลาเดินออกมาด้านนอก หรือ เดินภายในที่พัก จะได้ไม่ต้องสวมรองเท้าผ้าใบตลอดเวลา

-หัวปลั๊กไฟ ของประเทศนั้นๆ

-ยาประจำตัว เป็นอะไรที่สำคัญมากสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว (ควรมีฉลากเป็นภาษาอังกฤษกำกับไว้) หากหมดจะได้ให้แพทย์ดูได้ง่าย  หรือ ยาบางอย่างไม่สามารถซื้อเองได้ต้องให้แพทย์สั่งเท่านั้น

-ร่มพับคันเล็ก และ แว่นกันแดด บางคนอาจจะคิดว่าคงไม่ได้ใช้หรอก แต่พกไว้ไม่เสียหายค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าฝนจะตกเมื่อไหร่ แดดจะร้อนแค่ไหน เพราะบางทีสภาพอากาศเราก็เอาแน่เอานอนกับมันไม่ค่อยได้

-แผนที่เดินทาง แนะนำว่าให้โหลดลงมือถือไว้เลยค่ะ เราใช้  App Google Map ชื่อ “Offline Maps” สามารถดาวน์โหลดจาก App Store มาเก็บไว้ที่เครื่อง จากนั้นทำหาค้นหาชื่อเมืองที่เราต้องการจะไป —>ดาวน์โหลดไฟล์เก็บไว้ หรือจะทำการ mark จุดต่างๆในแผนที่ได้ หากเราไปเที่ยวแล้วไม่มีสัญญาณก็ยังสามารถดูแผนที่ได้ ไม่ต้องเสียเวลาไปปริ้นเป็นกระดาษ ทำให้ง่ายต่อการเดินทางมากขึ้น ประหยัดพื้นที่ในกระเป๋า ช่วยได้เยอะมากจริงๆ

-กล้องถ่ายรูป ไปเที่ยวทั้งที จะไม่เก็บภาพเป็นที่ระลึกเห็นจะไม่ได้ เตรียมกระเป๋าไปต่างประเทศเสร็จแล้วอย่าลืมพกกล้องถ่ายรูปติดตัวเอาไว้จะได้ไม่พลาดบันทึกความทรงจำในการเดินทางของเราด้วย วิวงามๆ ภาพสวยๆ บรรยากาศสนุกสนานกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงรอเราอยู่ อีกอย่างเอากล้องถ่ายรูปไปแล้วอย่าลืมที่ชาร์ต ขาตั้งกล้อง หรือแบบเตอรี่สำรอง และ เมมโมรี่การ์ไปเผื่อนะคะ 

-ใบจองโรงแรม และ ใบจองตั๋วเครื่องบิน รวมถึงแผนการเดินทาง เตรียมแยกใส่ประเป๋าเป้ หรือ กระเป๋าถือไว้ค่ะ หากจำเป็นต้องใช้จะได้หยิบได้ง่ายๆ 

-Internet สำหรับใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Sim Card หรือ Pocket Wifi โดยส่วนใหญ่แล้วเราเลือกใช้  Pocket Wifi เพราะว่าสะดวกกว่า ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนซิม แต่จะต้องพกไปด้วยตลอด

5. App แนะนำสำหรับเดินทางในประเทศญี่ปุ่น

1. app อ่านภาษาญี่ปุ่น Waygo เป็น app ได้รางวัลสาขาการแปลภาษา โดยสามารถแปลคำภาษาญี่ปุ่นตามป้ายหรือเมนูต่างๆ ให้เราได้เพียงแค่นำกล้องไปส่อง แล้ว app นี้ก็จะแปลออกมาเป็นคำภาษาอังกฤษให้เลยทันที นอกจากนี้ยังใช้ตอนไม่มีอินเทอร์เน็ตก็ได้ ทีนี้เราก็ไม่ต้องหวาดกลัวเมนูภาษาญี่ปุ่นอีกต่อไป!

2. app ขึ้นลงรถไฟ Hyperdia ปกติ Hyperdia เป็นเว็บไซต์ไร้เทียมทานในการหารถไฟในญี่ปุ่น ที่มีทั้งตารางเวลา และละเอียดไปจนถึงชานชาลาที่รถไฟจะออก สะดวกมาก

3. app แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว Tripadvisor เป็น app แนะนำอย่างสูงในการใช้เที่ยวในญี่ปุ่น เต็มไปด้วยสถานที่เที่ยวน่าสนใจแระร้านอาหารดีๆ

4. app สื่อสารภาษาญี่ปุ่น CamDictionary Free เป็น app แปลภาษาซึ่งมีเวอร์ชั่นญี่ปุ่น-ไทยให้เลือกใช้ โดยการคีย์ภาษาไทยเข้าไปแล้วก็จะแปลออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่นให้โดยสามารถออกเสียงให้ได้ด้วย หรือจะสลับเป็นอีกภาษาก็ได้

5. app แนะนำร้านกิน TeePee Guide เป็น app ที่สะดวกมากๆ ในการหาสถานที่เที่ยวและที่กินดังๆ ที่ได้รับการแนะนำในนิตยสารหรือโทรทัศน์ต่างๆ โดยแบ่งแยกเอาไว้เป็นหมวดหมู่อย่าง ที่เที่ยว ที่ช้อป ที่กิน รวมๆ แล้วกว่า 40,000 แห่งเลยทีเดียว แถมยังสามารถใช้ได้แม้ตอนไม่มีเน็ตอีกด้วย

ที่มาของแอพแนะนำ: https://allabout-japan.com/

6.เลือก JR Pass ที่เหมาะสมกับเส้นทาง

การเดินทางในญี่ปุ่นส่วนใหญ่นั้นใช้รถไฟเป็นหลัก เพราะว่าแต่ละเส้นทางครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งประเทศ ราคาไม่แพง และ ตรงเวลามาก ทำให้แผนที่วางไว้สามารถกำหนดเวลาได้ดี มีหลายเส้นทางหลายแบบให้เลือก จะมีบางที่เท่านั้นที่รถไฟไม่ครอบคลุมเช่น เกียวโต ที่เที่ยวหลายที่ต้องเดินทางด้วยรถบัส หรือ การเดินทางจากชินจูกุ ไป คาวากูชิโกะ ด้วยรถบัสจะใช้เวลาน้อยกว่ารถไฟ ดังนั้นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะซื้อ Pass หรือ บัตรจ่ายราคาเดียวขึ้นรถไฟกี่เทียวก็ได้ เพราะหากเดินทางไปเที่ยวหลาย ๆ ที่ในหนึ่งวันค่ารถจะถูกกว่าจ่ายเป็นเที่ยวมาก ที่สำคัญคือ Pass ส่วนใหญ่เป็นสิทธิพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้น คนญี่ปุ่นซื้อไม่ได้

จากที่เราเคยซื้อ Pass เป็นแบบ JR All Pass เส้นทาง Tohoku area แบบ Felxible 5 วัน มีอายุทั้งหมด 14 วัน เลือกใช้วันไหนก็ได้ภายใน 14 วัน ตั้งแต่วันที่เราออกตั๋วเดินทาง ราคา 19,000 เยน ตอนนั้นจำได้ว่าเดินทางไปฟุกุชิมะ เราว่ามันสะดวกสบายและคุ้มค่ากับการเดินทางสำหรับเส้นทางไกลๆ เพราะถ้ามานั่งจ่ายเงินซื้อทีละเที่ยวนั้นบางทีอาจจะแพงกว่าก็เป็นได้ หรือ บางเส้นทางสามารถนั่งรถบัสไปได้แม้ว่าจะประหยัดกว่า แต่การเดินททางนั้นหลายชั่วโมงทำให้เราเสียเวลา การยอมจ่ายเงินเพิ่มอีกนิดหน่อย แล้วได้เวลาเที่ยวเพิ่มขึ้นเราว่ามันคุ้มค่ากว่านะ เพราะเวลาเรามาเที่ยวทั้งทีเราก็อยากจะใช้เวลาในการเที่ยวของเราให้มีค่ามากที่สุด ยิ่งมนุษย์เงินเดือนที่มีวันลาจำกัดด้วยแล้ว กว่าจะลางานได้แต่ละทีนั้นแสนจะลำบาก บางทีวันลาไม่พอด้วยซ้ำ  

ถึงตอนนี้แล้วยังกลัวการเที่ยวญี่ปุ่นกันอยู่มั๊ยคะ เราว่าของแบบนี้มันต้องลองกันซักตั้งจะได้รู้และกล้าออกไปเจอโลกใหม่ 

“ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันค่ะ”

Follow Me >>>

Facebook: https://www.facebook.com/atravelerblog/

YouTube: http://bit.ly/2m79day

IG: https://www.instagram.com/a_traveler_blog/

Twitter: https://twitter.com/A_Traveler_Blog

Website: http://atravelerblogs.com

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s